บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมของ บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH)ที่ระดับ “BBB+"พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB+" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่"
อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนผลงานที่ยาวนานของบริษัทในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนภาพพจน์ตราสัญลักษณ์ที่แข็งแกร่งในตลาดบ้านจัดสรรระดับกลางถึงบน และรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอจากเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงโครงสร้างการเงินที่มีการใช้เงินกู้ในระดับสูง การขยายการลงทุนในธุรกิจอย่างมาก และความเสี่ยงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ความต้องที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลง สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในตลาดที่อยู่อาศัยได้ และคาดว่ารายได้ค่าเช่าจากเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงานจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2526 โดย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ เดือนเมษายน 2550 ประกอบด้วยบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วมกับตระกูลอัศวโภคิน (29%) The Government of Singapore Investment Corporation Pte. Ltd. (14%) และกองทุนเปิดไทยทวีทุน (8.5%) สัดส่วนรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยของบริษัทสำหรับครึ่งแรกของปี 2550 คิดเป็น 88% ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือมาจากรายได้ค่าเช่าจากเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ (9%) และอาคารสำนักงาน (3%)
ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 เป็นที่น่าพอใจ ในขณะตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลชะลอตัวลง 10% ยอดขายบ้านของบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้นถึง 52% สืบเนื่องจากความสำเร็จในการขายบ้านราคาปานกลางในโครงการคาซ่าวิลล์ และคาซ่าซิตี้ซึ่งเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน
ถึงแม้ว่าภายหลังจากการโอนขายอาคารสำนักงาน 2 แห่งให้แก่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้เฮ้าส์ (QHPF) จะทำให้รายได้ค่าเช่าจากเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงานลดลง 11% แต่บริษัทก็จะมีรายได้ค่าบริหารอาคารจากกองทุนฯ และเงินปันผลที่จะได้รับจากสัดส่วนลงทุน 25% ในกองทุนฯ เป็นการชดเชย
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ เดือนมิถุนายน 2550 เงินกู้รวมของบริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 12,229 ล้านบาท และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 60% จาก 52% เมื่อปลายปี 2549 การเพิ่มขึ้นของภาระหนี้เกิดจากการลงทุนจำนวนมากเพื่อให้บริษัทมีปริมาณสินค้าที่เพียงพอในช่วงที่คาดว่าความต้องการในสินค้าของบริษัทจะเพิ่มขึ้น บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานดีขึ้นเป็น 17% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 จาก 12% ในปี 2549 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินทุนถาวร และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดต่ำลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 ทั้งนี้เป็นผลมาจากภาระหนี้เงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยอ่อนตัวลง และแม้ว่าแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะค่อยๆ บรรเทาลง แต่ก็คาดว่าอุปสงค์ในที่อยู่อาศัยจะยังคงชะลอตัวต่อไปในช่วงปี 2550-2551
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--