บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้โอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่ CPF ถือหุ้นทางอ้อม 20% ผ่านบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ให้แก่ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) มูลค่ารวม 43,589,814,450 บาท ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer หรือ EBT) รวมถึงหุ้นในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) ซึ่ง CPRH ถืออยู่ในสัดส่วน 99.99% และทรัพย์สินอื่น อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
ทั้งนี้ MAKRO จะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ CPRH ในจำนวนไม่เกิน 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่า 217,949,072,250 บาท เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนสำหรับการทำ EBT ดังกล่าว
เมื่อการทำ EBT เสร็จสมบูรณ์ CPRH จะจดทะเบียนเลิกบริษัทและเริ่มชระบัญชี โดย CPRH จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของ CPRH รวมถึงหุ้นใน MAKRO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ CPRH แต่ละรายจะได้รับหุ้น MAKRO และมีสัดส่วนการถือหุ้น ดังนี้ CPM ถือหุ้นทางตรง 10.21%, บมจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (CPH) ถือหุ้น 20.43% และ บมจ.ซีพีออลล์ (CPALL) ถือหุ้น 65.97%
ดังนั้น CPM มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Mandatory Tender Offer) หุ้น MAKRO ร่วมกับ CPH ในราคาเสนอซื้อ 43.50 บาท/หุ้น ไม่ใช่เพื่อการเพิกถอน โดย CPM จะรับซื้อหุ้นสามัญใน MAKRO เป็นสัดส่วน 1 ใน 3 และ CPH จะรับซื้อหุ้น 2 ใน 3 ของจำนวนหุ้นที่มีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน MAKRO โดยจำนวนหุ้นสูงสุดที่ CPM ต้องรับซื้อครั้งนี้จะมีจำนวนไม่เกิน 110,699,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,815,428,250 บาท
หลังจากนั้น MAKRO จะดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ CPM เสนอขายหุ้นสามัญ MAKRO ที่จะได้รับจากการคืนเงินลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) จานวนไม่เกิน 181,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 1.85% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ภายหลังจากการทำ EBTและคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 1.63% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ภายหลัง PO
ทั้งนี้ CPRH ประกอบธุรกิจลงทุน (Investment Holding Company) โดยการถือหุ้น 99.99% ใน CPRD ซึ่งถือหุ้น 99.99% ใน บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้น 99.99% ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus?s ในประเทศไทย และ 100% ใน Lotuss Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus?s ในประเทศมาเลเซีย
บริษัทเชื่อว่าการทำ EBT เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในกลุ่ม ที่บริษัทฯ ลงทุน (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) โดยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ MAKRO และ CPRD ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจในระดับภูมิภาค และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจจากประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการผสานจุดเด่นในแง่มุมต่าง ๆ ของ MAKRO และกลุ่มโลตัสส์ อาทิ ความครอบคลุมของรูปแบบร้านค้า นอกจากนี้ ยังช่วยผสานประโยชน์ในการดำเนินการร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาดว่าจะสร้างประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอนาคต โดยการปรับโครงสร้างภายในและการปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว