บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.61 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการสัมปทานเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซียของ PT. PESONA KHATULISTIWA NUSANTARA (PKN) คิดเป็น 40% ของทุนจดทะเบียนทีชำระแล้วของ PKN โดยใช้เงินลงทุน 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดย LANNA ได้ลงนามสัญญา CONDITIONAL SHARE SUBSCRIPTION AGREEMENT (CSSA) กับ PKN และผู้ถือหุ้นของ PKN เมื่อวันที่ 8 มี.ค.61 และคู่สัญญาได้ลงนามแก้ไขสัญญา CSSA เพื่อขยายระยะเวลาที่ LANNA จะเข้าไปลงทุนในแหล่งสัมปทานเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ของ PKN ในประเทศอินโดนีเซียออกไปเพื่อให้ LANNA สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล (DUE DILIGENCE) ที่จะใช้ในการตัดสินใจให้มีความครบถ้วนและชัดเจนก่อนนั้น
ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก และเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม คณะกรรมการ LANNA จึงได้อนุมัติให้เจรจากับคู่สัญญาเพื่อลดสัดส่วนการลงทุนในโครงการ PKN จาก 40% เหลือ 10% โดยใช้เงินลงทุน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แยกเป็นเงินลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน PKN จำนวน 1,817,431 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและเงินให้กู้ยืมจากผู้ถือหุ้น PKN จำนวน 3,182,569 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคู่สัญญาที่เกียวข้องยอมรับข้อเสนอดังกล่าวและกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติแห่งประเทศอินโดนีเซีย (Ministry of Energy and Mineral Resources) ได้อนุญาตให้ LANNA ซึ่งเป็นชาวต่างชาติเข้าไปถือหุ้นใน PKN ที่เป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียได้แล้ว
PKN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายถ่านหิน โดยได้รับสัมปทานเหมืองถ่านหินรุ่นที่ 3 (3rd Generation Coal Contract of Work) จากรัฐบาลอินโดนีเซียมีกำหนด 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 52-82 มีปริมาณสำรองถ่านหินในเชิงพาณิชย์ประมาณ 65 ล้านเมตริกตัน โดยได้ผลิตถ่านหินออกจำหน่ายแล้วตั้งแต่ปี 52 ถึงปัจจุบันจำนวน 29 ล้านเมตริกตัน คงเหลือปริมาณสำรองถ่านหินอีก 36 ล้านเมตริกตัน ที่ตั้งโครงการสัมปทานเหมืองถ่านหิน: เมืองบูลุงงัน (Bulungan Regency) จังหวัดกาลิมันตันเหนือ (North Kalimantan)