นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสสามและเก้าเดือนแรกปี 2550 ว่า ในไตรมาส 3 ปี 2550 ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ปี 2550 จากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดของกลุ่มประเทศผู้ผลิตออกน้ำมันดิบ รวมทั้งการเข้าสู่ฤดูมรสุมในอ่าวเม็กซิโก จึงส่งผลให้ GRM อยู่ในระดับสูงที่ 6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ส่วนต่างราคาระหว่างผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของ TPX และ TLB ที่ปรับตัวลดลง ดังนั้น Integrated Margin ในไตรมาส 3 ปี 2550 จึงอยู่ที่ 7.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เปรียบเทียบกับ 6.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 3 ปี 2549 เพิ่มขึ้น 1.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
รวมทั้งจากผลการแข็งค่าของเงินบาท (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยไตรมาส 3 ปี 2550 เท่ากับ 34.17 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เปรียบเทียบกับ 37.79 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ปี 2549) ทำให้ในไตรมาสนี้ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 63,312 ล้านบาท และ EBITDAจำนวน 4,992 ล้านบาทลดลง 14,495 ล้านบาทและ 660 ล้านบาทตามลำดับ ดังนั้นบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,509 ล้านบาทลดลง 1,019 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 28.89%
ใน 9 เดือนแรกของปี 2550 Integrated Margin อยู่ที่ระดับ 10.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเปรียบเทียบกับ 8.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ของปีก่อน บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายจำนวน 199,810 ล้านบาทลดลง 17,576 ล้านบาท เนื่องจากผลการแข็งค่าของเงินบาท และ EBITDA จำนวน 23,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,692 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก Integrated Margin ที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวมใน 9 เดือนแรกของปี 2550 จำนวน 14,555 ล้านบาทลดลง 6 ล้านบาทจาก 9 เดือนแรกของปี 2549
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--