นายวิวัฒน์ พงศธร กรรมการ บมจ. พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) ชี้แจงว่า บริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบันทึกบัญชีของเงินลงทุนในบริษัทย่อยในงบการเงินเฉพาะกิจการจากวิธีส่วนได้เสีย เป็นวิธีราคาทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่ของมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44 เรื่อง งบการเงินรวมและการบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อย โดยบริษัทฯได้ปรับปรุงย้อนหลังงบการเงินที่แสดงเปรียบเทียบด้วย ทั้งนี้ บัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่แสดงอยู่ ในงบการเงินเฉพาะกิจการนั้นใช้วิธีราคาทุนเดิม (Historical Cost)
การเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีดังกล่าว ทำให้บริษัทฯมีขาดทุนสุทธิในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการ สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 16.5 ล้านบาท (0.12 บาทต่อหุ้น) และ 18.0 ล้านบาท (0.13 บาทต่อหุ้น) ตามลำดับ (2549: กำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการลดลงเป็นจำนวน 4.4 ล้านบาท (0.03 บาทต่อหุ้น) และ 19.5 ล้านบาท (0.14 บาทต่อหุ้น) ตามลำดับ)
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าวส่งผลต่อการแสดงรายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนในบริษัทย่อย ในงบการเงินเฉพาะกิจการเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อการจัดทำงบการเงินรวม และปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
ในปี 2550 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเป็นจำนวน 16.49 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขายและรายได้การให้บริการในธุรกิจคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสำเร็จรูป 935.46 ล้านบาท รายได้อื่นจำนวน 16.00 ล้านบาท ต้นทุนขายจำนวน 693.37 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 222.19 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 5.27 ล้านบาท ภาษีเงินได้นิติบุคคล 9.64 ล้านบาท และกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 4.50 ล้านบาท
การเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานปี 2550 เปรียบเทียบกับปี 2549 กำไรสุทธิ ลดลง 37.15 ล้านบาท มาจากรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการลดลง 9.14 ล้านบาท และในปี2549 บริษัทมีรายได้ค่าตอบแทนจากการโอนสิทธิจำนวน 7.46 ล้านบาท และกำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวน43.39 ล้านบาท ต้นทุนขายและบริการลดลง 25.96 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้น 15.28 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 1.29 ล้านบาทและภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 11.83 ล้านบาท
PT และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/50 มีกำไรสุทธิ 15.76 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.9 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.25 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--