บมจ. เนอวานา ไดอิ (NVD) รายงานสารสนเทศ เกี่ยวกับข้อพิพาททางกฎหมายที่สำคัญ ในระหว่างงวด 11 เดือน สิ้นสุดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ดังต่อไปนี้
1. เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 บริษัทฯ ได้ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯ ยื่นฟ้องบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่งหนึ่ง (จำเลย)ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในบริษัทย่อยของบริษัทฯ ต่อศาลแพ่ง ในฐานความผิดที่ว่า จำเลยผิดสัญญากู้ยืมเงิน เนื่องจากจำเลยได้กู้ยืมเงินจากบริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 91,500,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 144.67 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดนับแต่วันฟ้องคดีในอัตราร้อยละ 10 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว โดยศาลรับฟ้องคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ มย. 254/2564 และกำหนดวันนัดชี้สองสถานและสืบพยานในวันที่ 14 มีนาคม 2565
2. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องจำเลยและกรรมการของจำเลยต่อศาลแพ่ง ในฐานความผิดที่ว่าจำเลยใช้สิทธิฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่สุจริตและกระทำละเมิดต่อบริษัท ให้จำเลยและกรรมการของจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายหายให้แก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 268.33 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 จำเลยได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯ กระทำการผิดสัญญาผู้ถือหุ้น โดยแสวงหาประโยชน์ในการโฆษณา ทำให้กิจการร่วมค้าดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยจำเลยเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 15 ล้านบาท โดยที่จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า การกระทำของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ และมิได้เป็นการผิดสัญญาผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีที่จำเลยฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่มีมูล
ทั้งนี้ ศาลรับฟ้องคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ. 5310/2564 และกำหนดนัดชี้สองสถานและสืบพยานในวันที่ 21 มีนาคม 2565 ฝ่ายกฎหมายและที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯ เชื่อว่าการฟ้องคดีของบริษัทฯ เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ
3. เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2564 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องจำเลยและกรรมการของจำเลยต่อศาลแพ่ง ในฐานความผิดที่ว่าจำเลยใช้สิทธิฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่สุจริตและกระทำละเมิดต่อบริษัท ให้จำเลยและกรรมการของจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายหายให้แก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 268.33 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2/64 จำเลยได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯ กระทำการผิดสัญญาผู้ถือหุ้น โดยขายห้องชุดในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ระบุไว้ในสัญญาผู้ถือหุ้น ทำให้กิจการร่วมค้าดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยจำเลยเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 88.63 ล้านบาท ซึ่งจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า ไม่เป็นเป็นความจริง เนื่องจากบริษัทฯ ขายห้องชุดในราคาที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาผู้ถือหุ้น การกระทำของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ และมิได้เป็นการผิดสัญญาผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด จึงเป็นกรณีที่จำเลยฟ้องคดีบริษัทฯ โดยไม่มีมูลตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ศาลรับฟ้องคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ. 5311/2564 และกำหนดนัดชี้สองสถานและสืบพยานในวันที่ 28 มีนาคม 2565 ฝ่ายกฎหมายและที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯ เชื่อว่าการฟ้องคดีของบริษัทฯ เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และกรรมการของบริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าบริษัทฯ มิได้กระทำการตามข้อกล่าวอ้างในคำฟ้องจำเลยแต่อย่างใด เพื่อเป็นการรักษาสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ บริษัทฯ จะดำเนินการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป และหากบริษัทฯ มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีทั้งสามคดีข้างต้นเป็นประการใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป