ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารฯ ได้มีมติอนุมัติเข้าทำสัญญาซื้อหุ้น 10% ใน บมจ.ธนชาตประกันภัย และหุ้น 10% ใน บล.ธนชาต จาก Scotia Netherlands Holding B.V. (BNS) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ The Bank of Nova Scotia มูลค่ารวมประมาณ 1,605 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น มูลค่าธุรกรรมการซื้อหุ้นธนชาตประกันภัย ประมาณ 1,102 ล้านบาท และมูลค่าธุรกรรมการซื้อหุ้น บล.ธนชาต ประมาณ 503 ล้านบาท คาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้นทั้งสองบริษัทจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือน ธ.ค.64
ธนาคารได้เข้าทำธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้นที่จะเกิดจากการสร้างพันธมิตรหลัก (Anchor partner) ทางธุรกิจและการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างกัน เพื่อยกระดับการให้บริการและการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธนาคารฯ ในอนาคต
โดย ธนชาตประกันภัย เป็นบริษัทที่มีความชำนาญและอยู่ในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยมายาวนาน ทั้งยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาด 4.8% ถือเป็นลำดับที่ 7 ของอุตสาหกรรม และมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 4.9 พันล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประกันวินาศภัยและมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงถึง 1,381% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140%
ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งนี้ ธนาคารฯ มองเห็นถึงศกัยภาพและความพร้อมของธนชาตประกันภัยที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรหลักที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเช่าซื้อ (Hire purchase) ด้วยการร่วมพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันภัยปีที่ 2 หลังจากสัญญาประกันภัยปีแรกสิ้นสุดลงและปี ถัดๆ ไป นอกจากนั้น ยังมองถึงโอกาสในการต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการด้านรถยนต์ (Car Ecosystem) อย่างครบวงจรในอนาคต
สำหรับ บล.ธนชาต อยู่ในธุรกิจมายาวนานและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 3.0 พันล้านบาท และมีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ 61% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 7% ย่อมสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าหากจะเข้ามาเป็นพันธมิตรหลักของธนาคารใน 2 ส่วนด้วยกัน
ในส่วนแรก ได้แก่ บริการด้านการลงทุนสำหรับลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายย่อยกลุ่มมั่งคั่งซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังการวมกิจการ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการจากหลักทรัพย์ธนชาตซึ่งมีความหลากหลาย และเมื่อรวมกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ธนาคารฯ มีอยู่ในปัจจุบัน ก็จะช่วยยกระดับบริการด้านการลงทุนให้มีความครบครันในที่เดียว (One stop service) และช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการพอร์ตความมั่งคั่ง (Wealth management) ได้ครบทุกแง่มุมการลงทุนแบบ 360 องศา
และในส่วนที่สองได้แก่ บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ซึ่งหลักทรัพย์ธนชาตในฐานะพันธมิตรหลักก็จะช่วยยกระดับบริการด้านการบริหารเงินทุนที่ธนาคารฯ มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ด้านวาณิชธนกิจ บริการด้านตลาดทุน รวมถึงการนำเสนอเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้น
ท้งนี้ ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.64 ธนชาตประกันภัยและหลักทรัพย์ธนชาต มีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 670 ล้านบาท และจำนวน 500 ล้านบาทตามลำดับ