บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด (FD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จำนวน 245,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียน ในมีราคารวมทั้งสิ้น จำนวน 50,000,000 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 2 ราย คือ นางพัชราวดี รุ่งเพ็ชรวงศ์ และนางสาวเยาวพร รุ่งเพ็ชรวงศ์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทถือหุ้นใน FD รวมทั้งสิ้น จำนวน 499,998 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียน
ทั้งนี้การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของธุรกิจผลไม้อบแห้ง ซึ่งตลาดมีความต้องการสูงมากทั้งประเทศไทย และต่างประเทศ ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ลดลงทำให้ในหลายประเทศต่างกลับมาเปิดประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ FD จะสามารถเจาะฐานลูกค้าใหม่ๆ และขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้ FD เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท และผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต อีกทั้งการที่บริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียน ทำให้บริษัทมีอำนาจควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ สามารถกำหนดนโยบายต่าง ๆ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
โดยแหล่งเงินลงทุน บริษัทจะใช้เงินทุนที่ได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ GLOCON-W4 ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพดังกล่าว จำนวน 110.31 ล้านบาท จึงสามารถนำมาลงทุนซื้อหุ้นเพื่อเป็นการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน FD ได้
"การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯมีอำนาจควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ สามารถกำหนดนโยบายต่างๆ และดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว หลังจากได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจผลไม้อบแห้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต "นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOCON กล่าว
ปัจจุบันบริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด มีการส่งออกไปยังต่างประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งอเมริกา, ยุโรป, เอเชียแปซิฟิก และแอฟริกา คิดเป็นสัดส่วนการส่งออก 95% และตลาดในประเทศ 5% ตั้งเป้ายอดขายปี 2564 กว่า 488 ล้านบาท หรือเติบโต 37% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และปี 2565 ยอดขายเติบโตต่อเนื่องทะลุ 600 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ แบ่งธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็งและอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน คิดเป็นสัดส่วน 61% ของรายได้ทั้งหมด , 2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 32% ของรายได้ทั้งหมด, 3. ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม สัดส่วน 4% ของรายได้ทั้งหมด และ4. ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3% ของรายได้ทั้งหมด