บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ชื่อ บริษัท สยาม ซัคเซส เรียลตี้ จำกัด (SSR) โดย MINT ถือหุ้น 100% และมีทุนจดทะเบียน 626.1 ล้านบาท เพื่อจัดโครงสร้างบริษัท โดย SSR เข้าถือหุ้นใน บริษัท เจ้าพระยา รีซอร์ท จำกัด (CPR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เดิม MINT ถือหุ้น 81.2%
ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้จำหน่ายเงินลงทุน 40% ใน SSR ซึ่งถือหุ้นใน CPR ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท, โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ และศูนย์การค้าริเวอร์ไซด์ พลาซ่า ให้กับ Dana Hospitality RSC Limited (DHRL) ทำให้ภายหลังการทำรายการดังกล่าว MINT จะถือหุ้นใน SSR ที่ 60% และ DHRL ถือหุ้น 40%
นอกจากนี้ยังจำหน่ายเงินลงทุน 40% ในบริษัท เอ็มเอชจี ภูเก็ต จำกัด (MHGP) ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงแรมอนันตรา ลายัน ภูเก็ด และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์เกาะสมุย ให้ DHRL ทำให้ภายหลังจากทำรายการดังกล่าว MINT จะถือหุ้นใน MHGP ที่ 60% และ DHRL ถือหุ้น 40%
ทั้งนี้จะส่งผลดีต่อบริษัทในการเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระหนี้ โดยบริษัทจะได้รับเงินจากการจำหน่ายเงินลงทุนดังกล่าวที่ 104.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 3,500 ล้านบาท
MINT เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า บริษัทและกองทุน Abu Dhabi Fund for Development (ADFD) ประกาศการตกลงเข้าร่วมทุนเพื่อร่วมกันถือหุ้นในรีสอร์ทท่องเที่ยวสี่แห่งและศูนย์การค้าหนึ่งแห่งในประเทศไทย ซึ่งได้แก่ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท, โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ, ริเวอร์ไซด์ พลาซ่า กรุงเทพ, โรงแรมอนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท และโรงแรมโฟร์ซีซันส์ รีสอร์ท เกาะสมุย
MINT และ ADFD จะร่วมถือหุ้นในการร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 60 และ 40 ตามลำดับ โดยภายหลังจากการเข้าทำสัญญาร่วมทุนแล้วเสร็จ ADFD จะซื้อหุ้นในสัดส่วน 40% ของการถือหุ้นของ MINT ในแต่ละสินทรัพย์ ที่ราคาขายรวม 104.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.5 พันล้านบาท) ซึ่งคิดเป็น 12.5 เท่า ของ EBITDA โดยรวมปี 2562 ทั้งนี้ การประเมินมูลค่าดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของ ADFD ต่อความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของ MINT และศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยในอนาคต
MINT จะนำเงินสดรับสุทธิจากการขายเงินลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 40 ดังกล่าวไปลดภาระหนี้สินและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของ MINT
ทั้งนี้ สินทรัพย์ทั้งห้าจะยังคงดำเนินการภายใต้แบรนด์เดิม และอยู่ภายใต้ความควบคุมของ MINTADFD เป็นหน่วยงานที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2514 และได้ลงทุนในโครงการและในบริษัทมากกว่า 500 โครงการ มีสินทรัพย์จำนวนมากกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดย ADFD มุ่งเน้นไปที่สองด้านการลงทุน: การบริหารจัดการสภาพคล่องผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรและเงินฝากธนาคาร และการลงทุนในตลาดทุนผ่านการเป็นเจ้าของเต็มรูปแบบ หรือการเข้าร่วมถือหุ้นกับทั้งบริษัทที่อยู่ในและนอกตลาดหลักทรัพย์ โดยกลยุทธ์การลงทุนของ ADFD คือการลงทุนในบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสในการทำงานในภาคส่วนที่สำคัญ เช่น การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม บริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทอื่น อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในกองทุนประเภท Private Equity
นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าวว่า ธุรกรรมนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินและสภาพคล่อง เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวในอนาคต
"MINT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรระยะยาวกับ ADFD และมุ่งหวังว่าการร่วมงานกันในอนาคตจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประเทศที่เราดำเนินกิจการอยู่"
His Excellency Mohamed Saif Al Suwaidi, the Director General of ADFD กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นส่วนสำคัญของฐานการจ้างงานของประเทศไทย โดยถึงแม้จะมีความผันผวนจากการระบาดของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน ADFD ได้มองในระยะยาวข้ามผ่านการระบาดครั้งนี้ไปแล้ว และมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในแนวโน้มระยะยาวของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย
"ธุรกรรมในครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนในประเทศไทยครั้งแรกของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ MINT นอกจากนี้ ด้วยความเป็นผู้นำของ MINT ในฐานะผู้ประกอบการด้านการบริการที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย ADFD มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการลงทุนระยะยาวนี้ ซึ่งช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การลงทุนเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศพันธมิตรของเรา"