TPC เผย Q3 /50 กำไรพุ่ง 26% เหตุปริมาณขาย-ราคาพีวีซีปรับสูงขึ้น

          บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ (TPC) ชี้แจงผลการดำเนินงานของฝ่ายจัดการไตรมาสที่ 3 ปี 2550 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาสที่ 3/2550 รวม 1,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 26 ซึ่งเป็นผลจากปริมาณขายและส่วนต่างราคาขายกับราคาวัตถุดิบที่สูงกว่าปีก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19 ส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าขนส่งเนื่องจากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น
          บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และจากการให้บริการรวม 8,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1,608 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24 โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของพีวีซีสายการผลิตที่ 9 และ ราคาขายที่เพิ่มขึ้นสัดส่วนของรายได้จากการขาย ผลิตภัณฑ์พีวีซี ร้อยละ 83 จากผลิตภัณฑ์ท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูปร้อยละ 16 และรายได้อื่นๆร้อยละ 1 ของรายได้จากการขายรวม ตามลำดับ สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์พีวีซี ร้อยละ 34 เป็นการขายภายในประเทศ ร้อยละ 66 เป็นการส่งออก รวมถึงการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ
          ในงวด 9 เดือนปี 2550 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,685 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19 เนื่องจากกำไรของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯเริ่มมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล
          มีรายได้จากการขายและการให้บริการในงวดเก้าเดือนแรกของปี 2550 รวม 21,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14 ซึ่งเป็นผลจากปริมาณขายและราคาที่เพิ่มขึ้น
          ภาพรวมธุรกิจ ราคาพีวีซีมีการปรับตัวสูงขึ้นจาก US$ 874/MT ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 เป็น US$ 994/MT ในไตรมาสที่ 3 ปี 50 เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก รวมทั้งต้นทุนพลังงาน และ ปริมาณความต้องการพีวีซีในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลาง และ ยุโรปตะวันออก ที่เพิ่มสูงขึ้น
          สำหรับราคาเอทธิลีน ปรับตัวลดลงจาก US$ 1,336/MT ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 เป็น US$ 1,214/MT ในไตรมาสที่ 3 ปี 50 เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค ขณะที่ราคาอีดีซีปรับตัวสูงขึ้นกว่า US$ 90 /MT จาก US$ 339 /MT ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 ไปอยู่ที่ระดับ US$ 431/MT จึงส่งผลให้ส่วนต่างราคา PVC-EDC เพิ่มขึ้น จาก US$ 535/MT เป็น US$ 565/MT
          ไตรมาสที่ 3 ปี 50 ตลาดในประเทศลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ด้านราคาขายในประเทศในไตรมาสนี้ต่ำกว่าราคา CIF FE เล็กน้อย ในด้านการขายของบริษัทฯปริมาณการขายในประเทศของบริษัทฯ ลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
          ยอดขายพีวีซีในต่างประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปี 50 เพิ่มขึ้นกว่า 74% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 49 เนื่องจากปริมาณความต้องการในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตลาดใหม่ ด้านราคาขายต่างประเทศในไตรมาสนี้สูงกว่าราคา CIF FE ขณะที่ไตรมาสที่ 3 ปี 49 ราคาขายต่างประเทศต่ำกว่าราคา CIF FE เล็กน้อย