บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 พ.ย.50 ศาลปกครองสูงสุดได้จัดให้มีการนั่งพิจารณาครั้งแรกในคดีที่เกี่ยวข้องกับ PTT ขั้นตอนในการนั่งพิจารณาคดีนั้น ตุลาการเจ้าของสำนวน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะตุลาการพิจารณาพิพากษาจะเสนอสรุปข้อเท็จจริงและประเด็นของคดี แล้วให้คู่กรณีประกอบด้วยผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี แถลงด้วยวาจาประกอบคำแถลงเป็นหนังสือ โดยให้ผู้ฟ้องคดีแถลงก่อน
หลังจากนั้น ตุลาการผู้แถลงคดี ซึ่งมิใช่องค์คณะฯ ในคดี จะชี้แจงด้วยวาจาต่อองค์คณะฯเพื่อประกอบคำแถลงการณ์เป็นหนังสือที่ได้เสนอไว้แล้วหรือเสนอคำแถลงการณ์ด้วยวาจา เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี ตุลาการหัวหน้าคณะจะนัดประชุม
ปรึกษาเพื่อพิพากษาต่อไป
ทั้งนี้ คำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดี ไม่มีผลผูกพันต่อองค์คณะฯ ทั้งนี้ คำพิพากษาที่มีผลผูกพันต่อคู่กรณี คือคำพิพากษาของตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะฯ เท่านั้น
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค.49 กลุ่มบุคคลประกอบด้วยมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคกับพวกรวม 5 คน ได้ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ต่อศาลปกครองสูงสุดและขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนพ.ร.ก.กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของ PTT และพ.ร.ก.กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544 ซึ่งเกี่ยวกับการแปลงสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเป็นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตาม พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 ซึ่งศาลได้มีคำสั่งรับฟ้องเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2549 และต่อมาภายหลังได้อนุญาตให้ ปตท. เข้าเป็นคู่ความในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--