บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า การลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บมจ. อาร์แอนด์บีฟู้ด ซัพพลาย (RBF) และ Srinivasa Cystine Private Limited (SCPL) บริษัทในเครือ Avanti Group เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายส่วนผสมในอาหารในประเทศอินเดีย
โดย RBF อัตราร้อยละ 51, Srinivasa Cystine Private Limited อัตราร้อยละ 30 และ TU อัตราร้อยละ 19 โดยมีเงินลงทุน100 ล้านรูปี อินเดีย (โดยเป็นทุนที่ชำระแล้วอยู่ที่ 76 ล้านรูปีอินเดีย หรือประมาณ 1 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา)
บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ เน้นธุรกิจจัดหาวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมอาหารหรือ ingredient คุณภาพสูงให้กับตลาดในประเทศอินเดีย โดยเกิดขึ้นจากไทยยูเนี่ยนได้นำพันธมิตรในประเทศไทยอย่างอาร์บีเอฟ ที่มีความเข้มแข็งในด้านของธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร มาจับมือกับ SCPL บริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจผู้ผลิตอาหารทะเลในประเทศอินเดียและเป็นพันธมิตรของไทยยูเนี่ยนมาอย่างยาวนาน
บริษัทร่วมทุนนี้จะจัดจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารในตลาดประเทศอินเดีย ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทอาร์บีเอฟที่ครอบคลุมทั้งสารปรุงแต่งอาหารหลากหลายชนิดและ food coating รวมถึงบริษัทร่วมทุนนี้จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้และโอกาสในการตั้งโรงงานการผลิตในประเทศอินเดีย
นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RBF กล่าวว่า การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างอาร์บีเอฟและไทยยูเนี่ยน ตอกย้ำการต่อยอดการขยายธุรกิจไปด้วยกัน ด้วยธุรกิจของไทยยูเนี่ยนที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้เราได้ทำธุรกิจกับอะแวนติ กรุ๊ป ซึ่งมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานหลายสิบปีในประเทศอินเดีย และด้วยพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารของเราจะสามารถตอบโจทย์ในการผลิตสินค้าอาหารที่ปัจจุบันเน้นการใช้นวัตกรรมมากยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคในอินเดีย นี่จึงนับเป็นก้าวสำคัญของอาร์บีเอฟในการจะก้าวสู่ธุรกิจในเวทีโลก
นายอะยูริ อินดรา คูมาร์ ประธานและกรรมการ บริษัท SCPL กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ RBF ในครั้งนี้ ซึ่งเราจะร่วมกันนำผลิตภัณฑ์ของอาร์บีเอฟเข้าสู่ตลาดอินเดีย นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังเป็นพันธมิตรของอะแวนติมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี อินเดียเป็นตลาดที่เติบโตเร็วและมีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้ในส่วนผสมของอาหาร ทั้งวัตถุดิบสารปรุงแต่งรส สีและ food coating ด้วยความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนานของทุกฝ่าย ผมมีความมั่นใจว่าบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้จะตอบโจทย์ตลาดด้วยวัตถุดิบส่วนผสมอาหารคุณภาพสูงให้กับการผลิตอาหารทะเล เนื้อไก่และเนื้อสัตว์ต่างๆ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TU กล่าวว่า การจับมือระหว่างอาร์บีเอฟและอะแวนติ กรุ๊ป คือข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันด้วยความเคารพและเชื่อใจ เราจะเห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการส่งออกอาหารของอินเดียนั้นมีทิศทางสินค้ามูลค่าเพิ่มมากขึ้น และเป็นโอกาสของธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร การผนึกกำลังในครั้งนี้จะทำให้บริษัทร่วมทุนมีศักยภาพในการตอบสนองความต้องการที่กำลังเติบโตขึ้นได้ และด้วยเครือข่ายธุรกิจของไทยยูเนี่ยนทั่วโลก เราจะเป็นแรงสนับสนุนให้บริษัทร่วมทุนนี้เดินหน้าและเติบโตต่อไป