บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 PT Medco Ratch Power Riau (บริษัทร่วมทุนทางอ้อมที่บริษทฯถือหุ้นในสัดส่วน 49% ผ่านบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ได้รับหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการจากการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (PT PLN (Persero)) ว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้ทันที
ทั้งนี้ บริษัทลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม Riau ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 296.23 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ผ่าน PT Medco Ratch Power Riau
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียวในอินโดนีเซีย กำลังการผลิตติดตั้งรวม 296.23 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 65 โดยการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (PT PLN (Persero)) ได้มีหนังสือแจ้งยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau แห่งนี้ ดำเนินงานโดยบริษัทร่วมทุน PT Medco Ratch Power Riau (MRPR) โดยราช กรุ๊ป ถือหุ้น 49% และ PT Medco Power Indonesia (MPI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของอินโดนีเซีย ถือหุ้น 51%
โดยโครงการดังกล่าวจะผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ปีละ 1,445 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 20 ปี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปี 65 จนถึงปี 85 ทับริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้ในรูปของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน MRPR ทันทีในไตรมาส 1/65
โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ตั้งอยู่ที่จังหวัดเรียว ในตอนกลางของเกาะสุมาตรา ได้พัฒนาขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศอินโดนีเซียและนโยบายการสร้างความมั่นคงด้านไฟฟ้าในเขตพื้นที่จังหวัดเรียว โดยต้องการกระจายเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าให้มีความหลากหลาย เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการผลิตไฟฟ้าด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจัดเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สะอาดเพราะมีการเผาไหม้สมบูรณ์ โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 1,445 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ส่งผลให้กำลังการผลิตติดตั้งในเขตพื้นที่จังหวัดเรียวและเกาะสุมาตราเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4% ช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้ามั่นคงและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น
โครงการนี้ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7,324.34 เมกะวัตต์ และบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทมากขึ้น
"บริษัทยังคงยืนยันถึงความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมสนับสนุนอินโดนีเซียในการพัฒนาสาธารณูปโภคด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวอินโดนีเซียในระยะยาวต่อไป" นางสาวชูศรี กล่าว
สำหรับ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ได้ดำเนินการออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพความพร้อมจ่ายและความเชื่อถือได้ พร้อมทั้งติดตั้งระบบการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพเป็นมาตรฐานสากล