บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ได้พิจารณาและอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่กองทุนส่วนบุคคล โดย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (กองทุนส่วนบุคคล KTX) ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 6.00 บาท โดยมีกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน 2565 นั้น
บริษัทจะเริ่มการจองซื้อและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,500,000 หุ้น ให้แก่กองทุนส่วนบุคคล KTX ในวันที่ 2 มิถุนายน 2565 โดยกองทุนส่วนบุคคล KTX จะชำระเงินค่าจองซื้อรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 153,000,000 บาท
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการจัด Roadshow แผนธุรกิจของ CMO ต่อนักลงทุนซึ่งเป็นสถาบันการเงินและกองทุนในช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับดีเกินคาด มีผู้สนใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากการที่ธุรกิจอีเวนท์ เริ่มกลับมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
"เราได้รับความสนใจอย่างมากจากหลายสถาบันการเงิน และกองทุนต่าง ๆ เนื่องจากต้องถือว่าบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำธุรกิจแบบนี้มีเราเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น ที่ทำครบวงจร ตั้งแต่ อีเว้นท์, เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ระบบอุปกรณ์ แสง สี เสียงภาพ และ Production ซึ่งการเพิ่มทุนในครั้งนี้เราจะนำไปพัฒนาธุรกิจในด่านต่าง ๆ ให้มีความแข็งแกร่ง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อยอดธุรกิจต่อไป" นายกิติศักดิ์ กล่าว
นายกิติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันตลาดของ อีเว้นท์ และ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กลับมาคึกคักเป็นอย่างมาก ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีงานเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไปกลับเข้ามเป็นบวกได้อย่างแน่นอน และตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ก็จะได้เห็นผลงานในด้านต่าง ๆ ของบริษัทซึ่งเป็นงานที่บริษัทฯ จัดขึ้นมาเองเพิ่มมากกขึ้น อาทิ งาน Conference ระดับอินเตอร์อย่างงาน Hook ที่จะจัดในเดือนมิถุนายนนี้ งาน Finz ซึ่งเป็นงาน Financial สำหรับกลุ่ม Gen Z โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีคอนเสิร์ต K POP อีกไม่ต่ำกว่า 5-7 งาน รวมถึงงานคอนเสริต์อื่น ๆ อย่างฝั่งของศิลปินไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศิลปินระดับโลก อีกด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าธุรกิจใหม่ ๆ ที่เราเพิ่มเติมขึ้นมาจะมีความสอดคล้องกับธุรกิจเดิมที่ CMO ทำอยู่ อาทิ การที่เราจัดงาน อีเว้นท์ และ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพิ่มขึ้น จะช่วยส่งเสริมธุรกิจทางด้านอุปกรณ์ให้เช่าอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันทางด้านเทคโนโลยี เราจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม ทางด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์โดยเฉพาะ เน้นทางด้านของ Fan Base ซึ่งในอนาคตจะสามารถสร้างเป็น Community Entertainment แบบครบวงจร และยังสามารถเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับ CMO ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย โดยแผนงานทั้งหมดก็เพื่อที่จะดัน CMO ให้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจนี้แบบครบวงจรในอนาคตต่อไป
CMO ยังเปิดเผยว่า จากการศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนและการทำ MOU ในธุรกิจ Digital and Technology Solutions สำหรับ Web 2.0 และ Web 3.0 ใน 6 บริษัทตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 นั้น มี 1 บริษัทที่มีความเป็นไปได้ในการทำงานร่วมกันในธุรกิจใหม่ตามที่บริษัทฯ วางแผนงานไว้ คือ บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่นนอล จำกัด
ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการดำเนินธุรกิจร่วมกันที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากจะเข้าดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฏระเบียบของตลาดหลักทรัพย์โดยเคร่งครัด