บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล (COOL) เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ของบริษัท เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 450 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 300 ล้านบาท เป็น ทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 1,800 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนใน ส่วนที่เพิ่ม ใช้ชำระหนี้ของบริษัท เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท บริษัทย่อย และกิจการร่วมค้า ลงทุนในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ให้สินเชื่อ และลงทุนในธุรกิจซื้อมาขายไป ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนช่วงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2565 เวลา 15.30 น. โดยมีผู้ถือหุ้นมาใช้สิทธิจองซื้อหุ้นรวม 1,272,271,703 หุ้น คิดเป็นเงิน 636,135,851.50 บาท ส่งผลให้ โครงสร้างการถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
รายชื่อผู้ถือหุ้น ก่อนการจัดสรร หลังการจัดสรร
ณ 10 พฤษภาคม 2565 ณ 14 มิถุนายน 2565
(Record Date) (วันจดทะเบียนเพิ่มทุน)
จำนวนหุ้น สัดส่วน จำนวนหุ้น สัดส่วน
1 นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ
และบุคคลตามมาตรา 258 160,603,859 13.384% 618,000,000 24.997%
2 นายนพชัย วีระมาน 75,490,898 6.291% 201,490,898 8.150%
3 Mr. Fung Meng Hoi 77,061,100 6.422% 77,061,100 3.117%
4 น.ส.นิตยา อนิวรรตนกูล 20,000,000 1.667% 50,000,000 2.022%
5 นายสันต์ เจษฎาอารักษ์กุล 10,000,000 0.833% 40,000,000 1.618%
6 นายกัมพล ตติยกวี 10,000,000 0.833% 40,000,000 1.618%
7 น.ส.บงกช อัศวบริรักษ์ 11,000,000 0.917% 38,500,000 1.557%
8 นายสุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ 38,207,950 3.184% 38,207,950 1.545%
9 นายโชคชัย ศฤงคารชยธวัช 8,500,000 0.708% 34,000,000 1.375%
10 นายนิติ ถาวร 13,000,000 1.083% 32,500,000 1.315%
ผู้ถือหุ้นรายอื่น 776,136,193 64.678% 1,302,511,755 52.685%
รวม 1,200,000,000 100.000% 2,472,271,703 100.000%
ทั้งนี้หลังจากวันกำหนดสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ ได้จำหน่ายหุ้นบริษัทไป 24,400,000 หุ้น ซึ่งเป็นการทำรายการผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อรวมกับการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินสิทธิ ในครั้งนี้ ทำให้นายเกรียงไกร ศิระวณิชการและบุคคลตามมาตรา 258 ถือหุ้น บริษัทจำนวนรวม 618,000,000 หุ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลง หุ้นดังกล่าวข้างต้นไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานและโครงสร้างการจัดการของบริษัท และมิได้มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ของบริษัทแต่อย่างใด