บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 บริษัทฯ ได้รับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 29 กันยายน 2565 ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดเป็นเอกฉันท์ว่า ดาวเทียมไทยคม 7และไทยคม 8 มิได้เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ และให้ยกคำร้องแย้งของผู้คัดค้าน
เมื่อมีคำชี้ขาดดังกล่าวแล้ว กรณีจึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 มิได้อยู่ภายใต้ และหรือ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสัญญาดำเนินการกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ใดๆ ที่ต้องดำเนินการตามที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวอ้างและหรือร้องขอตามที่เป็นข้อพิพาท
อนึ่ง ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งเรื่องข้อพิพาทดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามหนังสือของบริษัทฯ เลขที่ TC-CP 019/2560 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แจ้งว่าดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ) ฉบับลงวันที่ 11 กันยายน 2534 และแจ้งให้บริษัทฯปฏิบัติตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯให้ครบถ้วน อาทิ การโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบทรัพ ย์สิน การชำระเงินผลประโยชนต์อบแทนและการประกันภัยทรัพย์สิน
ซึ่งบริษัทฯได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 ไม่ใช่ดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารฯ แต่เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบของการรับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ บริษัทฯจึงได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 เป็นข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 97/2560 นั้น