บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้เปิดเผยเกี่ยวกับแผนการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 820,000,000 หุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering (IPO)) รวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท (Pre-emptive Right) และการนำหุ้นของบมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (แผนการ Spin-off" และปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้พิจารณาอนุญาตคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ของ SGC
ที่ประชุมคณะกรรมการของ SGC ได้มีมติอนุมัติให้ SGC เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 574,000,000 หุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ (Pre-emptive Right) ในราคาเสนอขายเดียวกับเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่253ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565ได้มีมติกำหนดวิธีการคำนวณอัตราการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Ratio)
และกำหนดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีรายชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น SGC ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 (Record Date) เป็นผู้มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ SGC ในอัตรา 1.4326 หุ้นสามัญของบริษัทฯ 1 ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC (ในกรณีที่มีเศษของหุ้นที่เกิดจากการคำนวณให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้งทั้งจำนวน) ทั้งนี้ SGC ขอสงวนสิทธิที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น โดยพิจารณาจากที่อยู่จัดส่งเอกสารเฉพาะในประเทศไทย
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 820 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้ เพื่อปลดล็อกฐานทุนเร่งการเติบโตของธุรกิจติดปีกพอร์ตสินเชื่อโตอย่างมีคุณภาพ
โดยบริษัทฯ จะแจ้งราคาเสนอขายดังกล่าวซึ่งจะเป็นราคาเดียวกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC ให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) รวมถึงวิธีการจองซื้อ และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทราบต่อไปเมื่อแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนของ SGC มีผลบังคับใช้ โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้