ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. เบทาโกร (BTG) บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่มีโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร และเป็นผู้นำ เรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารระดับสูง ก้าวสู่การเป็น World-Class Food & Agro Total Solutions Provider พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อใน การซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BTG"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย ว่า BTG เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่า เสนอขายสูงที่สุดในตลาดทุนไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นี้
BTG ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารครบวงจรครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ การผลิตและ จำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และปลา ผลิตภัณฑ์อาหาร แปรรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง จำหน่ายในประเทศและต่างประเทศกว่า 20 ประเทศ ทั่วโลก ปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และไส้กรอก ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เช่น S-Pure, Betagro, ITOHAM และ แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น Perfecta, DOG n Joy และ CAT n Joy เป็นต้น
BTG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 9,674 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่ม ทุนต่อประชาชนทั่วไป 434.8 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 65.2 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10 - 17 ตุลาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 17,392 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 21.2 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภาย หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลัก ทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบทาโกร เปิดเผยว่าบริษัทมีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่ BTG จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งสู่ การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารในราคาที่เป็นธรรม โดยเชื่อมั่นเป็นอย่าง ยิ่งว่าความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ประกอบกับประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 55 ปี และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ จะเสริมให้ บริษัทมีศักยภาพการเติบโตและการแข่งขันอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไป เป็นทุน
ในการขยายธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ ของกระบวนการผลิต ตลอดจนชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัท
BTG มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด แผนการลงทุน รวมทั้งความจำเป็นและความเหมาะ สมอื่นๆ ตามความเห็นสมควรคณะกรรมการบริษัทฯ
ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 36.18% TAE HK Investment Limited ถือหุ้น 20.67% และกลุ่มครอบครัวแต้ไพสิฐพงษ์ 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
รับหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ ชื่อบริษัท : บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG) ชื่อย่อหลักทรัพย์ : BTG ตลาดรอง : SET กลุ่มอุตสาหกรรม : เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจ : อาหารและเครื่องดื่ม วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน : 02 พ.ย. 2565 วันที่เริ่มทำการซื้อขาย : 02 พ.ย. 2565 จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 1,934,800,000 จำนวนหุ้นชำระแล้ว (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 1,934,800,000 ราคา Par (บาทต่อหุ้น) : 5.00 ทุนชำระแล้ว (บาท) : 9,674,000,000.00 จำนวนหุ้น IPO (หุ้น) : 434,800,000 จัดสรรให้แก่ : ประชาชนทั่วไป จำนวน 434,800,000 หุ้น ราคา IPO (บาท) : 40.00 วันที่เสนอขาย IPO : วันที่ 10 ต.ค. 2565 ถึงวันที่ 25 ต.ค. 2565