บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.65 มีมติแต่งตั้งนายวีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ เป็นกรรมการแทน นายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ที่ลาออกเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ โดยมีผลตั้งแต่ 15 พ.ย. 65
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ เปิดเผยว่า กรณีที่นายเฉลิมชัย ทองวัฒน์ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.65 และนายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการบริหารความเสี่ยง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.65 นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ทองวัฒน์ เป็นบิดาของ นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ เมื่อลาออกไปแล้ว ได้แต่งตั้ง นายรัฐพล กิตติชัยตระกูล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ให้เป็นกรรมการแทน ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างกรรมการตามปรกติ เพื่อให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ตามที่วางแผนไว้แล้ว และเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงานอีกด้วย
ด้านนายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ได้แจ้งลาออกเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ จากทำงานหนักร่วมกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งสามารถนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ตามแผนที่วางไว้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ กล่าวอีกว่า การแต่งตั้ง นายวีระศักดิ์ สินทรัพย์ไพบูลย์ เป็น กรรมการบริษัท ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ทางบริษัทฯ ได้วางแผนไว้เพื่อรองรับการขยายสาขาภายหลัง IPO โดย นายวีระศักดิ์ เป็นอดีตผู้บริหารยูนิลีเวอร์ ถือเป็นนักบริหารมืออาชีพที่จะสนับสนุนให้เกิด Solutions ใหม่ๆให้แก่ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ในปีนี้ KLINIQ ได้ขยายสาขาแล้ว 11 สาขา รวมทั้งมีแผนเปิดสาขาใหม่ใน CBD เพิ่มเติมอีก 2 สาขาภายในเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งถือเป็น milestone ใหม่ของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ศึกษาแผนการขยายสาขาในปีหน้า และปรับกลยุทธ์เพิ่มเติม เพื่อตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการแพทย์ความงาม เชื่อว่าจะมีศักยภาพที่จะขยาย 6-10 สาขา ได้อย่างแน่นอน รวมทั้งการลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์มาตรฐาน US FDA เพิ่มเติมจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เห็นได้จากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯมีรายได้ 1,147.13 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขทั้งปีของปี 2564 ที่ 949.93 ล้านบาท และสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ นอกจากนี้ยังมีรายได้รับล่วงหน้าสูงถึง 379.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 31.39% จากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ เชื่อว่าทิศทางธุรกิจในอนาคตจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน จากทั้งธุรกิจ Skin และ Surgery
พร้อมกันนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 160 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มของนายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กลุ่ม บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) นายรัฐพล และ กลุ่มนายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา นายคเชนทร์ เบญจกุล นายพีรนาถ โชควัฒนา และ นายภิญญ์พิสิฐ ตั้งธำรงโรจน์ ได้ถูก Lock-up ห้ามนำหุ้นออกขายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยหุ้นดังกล่าวได้รับการ Lock-up ที่ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ บล.ดาโอ (ประเทศไทย)