บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (Nuovo Plus) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยซึ่ง ปตท.ถือหุ้นร้อยละ 51 และ GPSC ถือหุ้นร้อยละ 49) ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนและสัญญาที่เกี่ยวข้อง ที่จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท Gotion Singapore Pte.Ltd.ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน ในนามบริษัท เอ็นวีโกชั่น จำกัด (NV Gotion) ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 600 ล้านบาท โดย Nuovo Plus และ Gotion ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 และ 49 ตามลำดับ เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าประกอบและจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่และชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า
โดยเป็นการผสานเทคโนโลยีความเชี่ยวชาญทั้ง 2 บริษัทเ พื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจแบตเตอรี่ และเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับกลุยทธ์การลงทุนในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) ของกลุ่ม ปตท.
ทั้งนี้ การจดทะเบียนจัดต้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1/66 โดยมีกำลังการผลิตเริ่มต้น 1,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 4/66 และขยายกำลังการผลิตเป็น 2,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปีภายในปี 2568
นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน PTT และประธานกรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การผลิตแบตเตอรี่เพื่อระบบกักเก็บพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า
การร่วมทุนจัดตั้ง NV Gotion ครั้งนี้ เป็นไปตามทิศทางกลยุทธ์การลงทุนธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตของ กลุ่ม ปตท. เพื่อเร่งสร้าง Energy Storage and EV Value Chain ให้ครอบคลุมในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
การผสานความเชี่ยวชาญจาก Nuovo Plus และ Gotion ทั้งในด้านของการวิจัยพัฒนา ศักยภาพการผลิตแบบแข่งขันได้ การบริการด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยีโดยตรง และการให้บริการแบบครบวงจรในประเทศไทย จะทำให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลสู่ลูกค้าอุตสาหกรรมในไทยและอาเซียน
โดย NV Gotion จะเริ่มก่อสร้างโรงงานประกอบชุดแบตเตอรี่ขนาด 2 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงแก่ตลาดได้ภายในไตรมาส 4/66 นับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และผลักดันเป้าหมาย Net Zero ของประเทศจากทุกภาคส่วนร่วมกัน