บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เปิดเผยวานนี้ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 มีมติอนุมัติให้ฝ่ายบริหารกำหนดรายละเอียดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) เมื่อบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกิน หลังจากราคาหุ้น STARK ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจาก 3.32 บาทในวันที่ 9 ธ.ค.65 จนถึง 19 ธ.ค.65 ลงมาถึง 31% หรือลดลง 1.04 บาท มาปิดที่ 2.28 บาท
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ประกอบด้วย (1) กระแสเงินสดจากการประกอบกิจการของบริษัท และ (2) เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งมีข้อจำกัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การใช้เงิน บริษัทจึงอยู่ระหว่างพิจารณากำหนดวัตถุประสงค์และแผนการใช้เงินเพิ่มทุนใหม่ และเมื่อรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วนจะนำข้อมูลและผลการพิจารณาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมาเช้าวันนี้ STARK ชี้แจงเพิ่มเติมว่า โครงการซื้อหุ้นคืนนั้นจะดำเนินการจากสภาพคล่องส่วนเกินจากการประกอบกิจการของบริษัทเมื่อมีกำไรสะสมเพียงพอ ในจำนวนที่ไม่เกินกว่ากำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทในงบเฉพาะกิจการ ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับของบริษัทและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อนึ่ง เนื่องจากบริษัทได้ใช้สิทธิตามกฎหมายและข้อสัญญาที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิกถอนสัญญาซื้อขายหุ้นกลุ่ม LEONI ส่งผลให้บริษัทไม่ได้ใช้เงินเพิ่มทุนที่ด้รับจากการเสนอขายหุ้น PP เพื่อเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวอีกต่อไป แต่บริษัทยังคงมีนโยบายที่จะใช้เงินจำนวนดังกล่าวเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น รวมถึงการขยายกิจการและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการประกอบกิจการของบริษัท โดยคณะกรรมการจะนำเสนอแนวทางการใช้เงินจำนวนดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้พิจารณาเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การใช้เงินและแผนการใช้เงินเพิ่มทุนใหม่ดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป