บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 17 ม.ค.66 มีมติอนุมัติให้ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด (UVCAP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้น 100%) เข้าซื้อหุ้นบมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นบริษัทร่วมของบริษัท เพิ่มเติมจำนวน 72,360,000 หุ้น คิด เป็นร้อยละ 12 ในราคาหุ้นละ 5.60 บาท มูลค่าเงินลงทุนรวม 405.22 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ STI โดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค.66 UVCAP ได้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญ STI เพิ่มเติมตามมติที่ประชุมคณะกรรมการรบริษัทเสร็จสมบูรณ์แล้ว
บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่า เนื่องจากบริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในวันที่ 20 มกราคม 2566 จะมีการขายหุ้น STI ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) โดยผู้ถือ หุ้นรายใหญ่ของบริษัทจำนวน 72,360,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 12 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท จำนวน 602,997,079 หุ้น ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดจากการซื้อและขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวม 6 ราย ได้แก่
รายชื่อผู้ถือหุ้น 5 ม.ค.66 20 ม.ค.66 1.บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด 157,500,000 หุ้น 26.12% 229,860,000 หุ้น 38.12% 2.นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ 90,000,000 หุ้น 14.93% 66,663,500 หุ้น 11.06% 3.นายไพรัช เล้าประเสริฐ 70,242,750 หุ้น 11.65% 50,193,750 หุ้น 8.32% 4.นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข 67,500,000 หุ้น 11.19% 50,193,500 หุ้น 8.32% 5.นายอิสรินทร สุวัฒโน 27,000,000 หุ้น 4.46% 20,156,000 หุ้น 3.34% 6.นายกิตติศักดิ์ สุภาควัฒน์ 18,000,000 หุ้น 2.96% 13,176,000 หุ้น 2.19%
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และในฐานะผู้ถือหุ้น STI กล่าวว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ถือ เป็น Strategic Partner ที่ร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง เนื่องจากยังคงให้ความไว้วางใจต่อทีมผู้บริหารชุดเดิม ในการ บริหารจัดการองค์กร และให้ความเป็นอิสระในการให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเชื่อมั่นในทีมผู้บริหาร ที่มีความเป็นมือ อาชีพ โปร่งใส มีทีมงานที่มีศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารงานโครงการก่อสร้างที่หลากหลายประเภท
ดังนั้น เรายังคงเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับกลยุทธ์ในการขยายงานที่ปรึกษาบริหาร โครงการฯ ให้สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับมาพร้อมการเปิดประเทศ ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 66 ภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริม ทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนนโยบายภาครัฐในการเร่งดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานยังถือเป็นปัจจัยบวกให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ
นอกจากนี้เรายังคงมองหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันเพื่อเข้ามาเสริมการทำงานให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำ เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยให้กระบวนการทำงานมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยจุดมุ่งหมายในการสร้าง STI เป็นสถาบันทางด้าน วิศวกร ที่มีมาตรฐานวิชาชีพระดับสากล เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า พร้อมกับเดินหน้าสร้างการเติบโตในทุกมิติ เพื่อสร้างผลตอบแทน ที่ดีต่อผู้ถือหุ้น อย่างมั่นคง และยั่งยืน
นายไพรัช เล้าประเสริฐ ในฐานะผู้ถือหุ้นของ STI และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด (STH) (บริษัท ย่อย) กล่าวเสริมว่า การเข้าลงทุนของ UVCAP ในครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม มองถึงการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนการบริหารงาน ของ STI ด้วยดีมาโดยตลอด การตัดสินใจขายหุ้น STI ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานขององค์กรแต่อย่างใด เรายังคงมี ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ วางแผนและกำหนดกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินงานได้อย่างเป็นอิสระ โดยเฉพาะในปี 2566 เรา มุ่งมั่นที่จะบริหารงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และพร้อมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของ ESG ภายใต้การคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล