บมจ. บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 พิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (BM-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วน การถือหุ้น
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบสำคัญแสดงสิทธิ จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญทั้งหมด จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรร (หน่วย) : 172,819,586 หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของ : หุ้นสามัญ ใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 172,819,586 อัตราส่วน (หุ้นเดิม : ใบสำคัญแสดงสิทธิ) : 3.00 : 1.00 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record date) : 14 มี.ค. 2566 วันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ : 13 มี.ค. 2566 ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00 ลักษณะของใบสำคัญแสดงสิทธิ ชื่อย่อใบสำคัญแสดงสิทธิ : BM-W3 ชื่อใบสำคัญแสดงสิทธิ (แก้ไข) : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ
บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3
อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) : 1.00 : 1.00 ราคาการใช้สิทธิ(บาทต่อหุ้น) : 1.10 อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ : ไม่เกิน 2 ปี 3 เดือน
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 65 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,305.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.56 ล้านบาท หรือ 14.13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดีในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งออกที่มียอด ขายเติบโตเป็น 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 230 ล้านบาท หรือ 104.55% รวมถึงการผลิตสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กต่าง ๆ โดยเฉพาะ การรับผลิตโครง "ตู้เต่าบิน" ซึ่งเป็นตู้คาเฟ่อัตโนมัติ จากกลุ่มบมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) และงานในหมวดของราง-ท่อร้อยสาย ไฟ จากโครงการเมกะโปรเจคต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน
"ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะยอดส่งออกที่มีการเติบโตกว่า 100% และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการผลิตชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เตรียมจะขยายโรงงานการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตทั้ง ยอดการสั่งจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B (Business-to-Business) , การรับงานผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ (OEM) , การได้รับผล ประโยชน์จากการจัดตั้งโรงงานในเขตปลอดอากร (Free Zone-ฟรีโซน) ที่เตรียมเปิดเดินเครื่องในเร็ว ๆ นี้ และการรับรู้รายได้จาก งานใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอานิสงส์บวกต่อบริษัทในปี 2565" นายธานิน กล่าว
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจปี 66 บริษัทฯ จะเร่งขยายธุรกิจตามแผนที่กำหนด โดยเฉพาะด้านการส่งออกที่คาดว่าจะสามารถเติบ โตเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นเท่าตัว รวมถึงการผลิตตู้งานต่างๆ เช่น ตู้เต่าบิน , ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ เป็นต้น รวมถึงการเตรียมเปิดโรงงานใหม่ ในเขตฟรีโซน เพื่อรองรับการขยายงานด้านการส่งออก และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงเป็นการลดต้นทุนและความเสี่ยง จากอัตราแลกเปลี่ยนจากการนำเข้าสินค้าเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยคาดว่าจะเดินเครื่องการผลิตได้เร็ว ๆ นี้