บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี (TGE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัท ท่าฉาง เอนเนอร์ยี่ โซลูชัน (ชัยนาท) จำกัด (TES CNT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 เข้าลงทุนในโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากชุมชนของสำนักงานเทศบาลตำบลหนองมะโมง อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท
TES CNT เป็นผู้ชนะการประกวดราคาและได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ลงทุนและดำเนินการโครงการบริหารจัดการกำจัดขยะมูลฝอยภายใต้รูปแบบการดำเนินโครงการที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการเองทั้งหมด (Build Own and Operate: BOO) โดยมีกรอบระยะเวลาของโครงการทั้งหมด 25 ปี โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนซื้อที่ดิน ก่อสร้างและจัดหาเครื่องจักรโรงไฟฟ้าเพื่อการก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการ โดยประมาณการมูลค่ารวมเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1,450,624,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเทศบาลตำบลหนองมะโมง เป็นโครงการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร ด้วยการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า ภายใต้รูปแบบ BOO โดยมีกรอบระยะเวลาของโครงการทั้งหมด 25 ปี โดยโรงไฟฟ้าที่สร้างขึ้นจะมีกำลังผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตเสนอขายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) 6.0 เมกะวัตต์ โดยใช้เทคโนโลยีระบบเตาเผาขยะมูลฝอย(Incinerator) แบบตะกรับ (Stoker)และมีระบบการทำงานแบบต่อเนื่อง สามารถกำจัดขยะมูลฝอยได้ 400 ตันต่อวัน เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะใช้ขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
TES CNT จะลงนามในสัญญาบริหารโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร ด้วยการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า ของสำนักงานเทศบาลตำบลหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท ภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 21 เม.ย.66
ส่วนแหล่งเงินทุนที่จะใช้มาจากกระแสเงินสดภายในของกลุ่มบริษัท และ/หรือ การเพิ่มทุนของบริษัท และ/หรือ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือ เงินกู้ยืมจากกลุ่ม
นายสุเมธ ลักษิตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TGE เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมเป็น 200 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 2575 ตามแผนยุทธศาสตร์ที่ประกาศไว้
ขณะนี้ภาพรวมธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 69.6 MW ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ COD แล้ว 3 โครงการ ใน อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี กำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 MW และกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ที่อยู่ระหว่างพัฒนา 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 39.9 MW (รอลงนาม PPA) ได้แก่ โครงการ TES-SKW จ.สระแก้ว โครงการ TES-RBR จ.ราชบุรี โครงการ TES-CPN จ.ชุมพร โครงการ TES-TCN จ.สมุทรสาคร และโครงการล่าสุด TES-CNT จ.ชัยนาท
นอกจากนี้ปี 66 บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจาก อปท. เพิ่มอีก 2 โครงการ
สำหรับการเติบโตในปี 66 มาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ 1) มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง 2) ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น 3) แหล่งรายได้ใหม่จากการขายคาร์บอนเครดิต โดยอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมของช่วงเวลาและราคาขายคาร์บอนเครดิตจากโรงไฟฟ้าชีวมวล TPG จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย และโรงไฟฟ้าชีวมวล TBP ที่กำลังรอขึ้นทะเบียน และ 3) การพิจารณาขยายการลงทุนด้วยวิธี M&A และการเข้ารับบริหารโครงการโรงไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานปี 65 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 216.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 202.1 ล้านบาท และมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 938.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.10% จากปีก่อนอยู่ที่ 781.20 ล้านบาท ปัจจัยมาจากการที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวล TBP จ.สุราษฎร์ธานีเต็มปี และผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายน้ำและไอน้ำของโรงไฟฟ้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนรวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) ส่งผลให้ราคาขายไฟฟ้าแก่ลูกค้าในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/65 เติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยมีกำไรสุทธิ 59.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 47.50 ล้านบาท และมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 242.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 218.90 ล้านบาท เนื่องจากการมุ่งเน้นประสิทธิภาพเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน