บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทเข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงที่ทำกับบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อที่จะเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ประกอบธุรกิจสายการบิน และตรวจสอบสถานะของกิจการดังกล่าว ก่อนที่จะพิจารณาทำรายการซื้อขายหุ้นสามัญ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.65 และได้วางเงินมัดจำ 85 ล้านบาท ซึ่งเงินมัดจำจะได้รับคืนเมื่อการตรวจสอบสถานะของกิจการเสร็จสิ้นลงซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง (สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ค.66)
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.66 บริษัทได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้จะขายว่าระยะเวลาในการดำเนินการศึกษาตรวจสอบและประเมินสถานะของบริษัท รวมถึงตรวจสอบสถานะของกิจการ (Due Diligence) จะครบกำหนดเวลาตามที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงแล้วจึงขอให้ผู้จะขายคืนเงินมัดจำพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตรา 15% ต่อปี ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ที่ลงนามในหนังสือดังกล่าว (วันที่ 11 พ.ค.66) แต่จนถึงขณะนี้ผู้จะขายไม่สามารถคืนเงินมัดจำได้ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิในการยึดหลักประกันและดำเนินการต่างๆ ตามที่กำหนดในบันทึกข้อตกลง
บริษัทจะดำเนินการเพื่อบังคับตามสิทธิที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงและสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการบังคับหุ้นหลักประกัน ซึ่งเป็นหุ้นสามัญในบริษัท 2 บริษัท เพื่อรอขายและนำเงินที่ได้มาชำระหนี้ และในการขายหุ้นหลักประกัน บริษัทฯ มีสิทธิในการขาย 3 ปีนับจากวันที่ครบกำหนดคืนเงินมัดจำ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและสภาพคล่องของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ภายใต้บันทึกข้อตกลงแม้จะมีการดำเนินการบังคับหลักประกันก็ตาม บริษัทยังคงมีสิทธิในการซื้อหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจสายการบิน 10% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในราคา 700 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี (นับจากวันที่ในบันทึกข้อตกลง) ซึ่งจะอยู่ภายใต้การพิจารณาและตัดสินใจของบริษัทฯแต่เพียงผู้เดียว และ ผู้จะขายไม่มีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ หากบริษัทไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้น