บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.66 บริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการลงทุน จากเดิมเป็นผู้ลงทุนในด้านโครงสร้างสถานที่ติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์ และลงทุนในเครื่องขุดบิทคอยน์ และรับรู้รายได้โดยการผลิตเหรียญ ไปเป็นการให้เช่าสถานที่ติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์ โดยประกอบด้วย อาคารและโครงสร้างสำหรับการวางเครื่องขุดบิทคอยน์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าเป็น นิติบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และผู้บริหารของบริษัท โดยรับรู้รายได้เป็นค่าเช่าตามสัญญา ในเบื้องต้นผู้เช่าลงนามเช่าสถานที่ดังกล่าว 1 ปี
และในส่วนให้เช่าเครื่องขุดบิทคอยน์บริษัทได้ทำสัญญาให้เช่าเครื่องขุดบิทคอยน์ 156 เครื่อง อายุสัญญาเช่า 1 ปีให้แก่ นิติบุคคลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลกับผู้เช่าสถานที่ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทและผู้บริหารของบริษัท โดยได้เริ่มเช่าเครื่องขุดบิทคอยน์ตั้งแต่เดือน ม.ค.66 เป็นต้นมา ค่าเช่าตามสัญญาจะคิดค่าเช่าเหมารายเดือน และอ้างอิงช่วงราคาของเหรียญบิทคอยน์(มีราคาค่าเช่าพื้นฐานเป็นตัวตั้งต้น และปรับขึ้นลง ตามช่วงราคาของเหรียญบิทคอยน์ ณ สิ้นเดือน)
อนึ่ง ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวบริษัทฯ ได้พิจารณาจากฐานข้อมูลต่างๆ และวิเคราะห์ถึงแนวโน้ม ในด้านค่าไฟฟ้า รวมไปถึงราคาเหรียญบิทคอยน์โดยทีมงานที่ติดตามถึงสถานการณ์ของราคาเหรียญบิทคอยน์และแนวโน้มในอนาคต แต่เนื่องจากจำนวนปริมาณเหรียญบิทคอยน์ที่คงเหลือมีจำกัด และระดับความยากของการขุดบิทคอยน์ที่จะเพิ่มขึ้นในทุกๆวินาที จึงพิจารณาเห็นถึงผลตอบแทนที่ลดลงเนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ที่บริษัทเข้าลงทุน
บริษัทได้พิจารณาถึงปริมาณกำลังการขุดทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงราคาเครื่องขุดบิทคอยน์ที่สูงขึ้นอย่าวงก้าวกระโดด ทำให้แผนที่จะต้องขยายก ลังในการขุดบิทคอยน์ได้รับผลกระทบ ในส่วนด้านต้นทุนการใช้ไฟฟ้าถึงแม้ว่าบริษัทจะได้รับเงื่อนไขในราคาขายไฟฟ้าที่ดีจากนิคมราชบุรีนั้น จะทำให้ผลประกอบการของธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์นั้นยังคงมีผลประกอบการเป็นบวกในช่วง 1 ปีนี้ แต่เมื่อพิจารณารวมกับแนวโน้มความยากในการขุดเหรียญเมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตของราคาเหรียญแล้ว บริษัทฯเห็นว่าการเร่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุนเป็นวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด และได้รับผลประโยชน์สูงสุด