บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบจากหนังสือของบริษัท ไพร้ซวอเตอร์ เฮ้าส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีว่าได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการ และหรือบุคคลที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท และประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีและการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)
ต่อมาบริษัทจึงได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด รวมถึงบริษัทได้แสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผล Special Audit โดยบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับ DSI และ บก.ปอศ.รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท
การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงขั้นต้น บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อ DSI และ บก.ปอศ.จะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีลงโทษได้ตามกฎหมาย ตลอดจนสามารถติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกกระทำโดยทุจริตจากผู้กระทำความผิดคืนกลับให้แก่บริษัทเพื่อเป็นการเยียวยาบรรเทาความเสียหายที่บริษัทได้รับ
อนึ่ง เนื่องจากขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของ DSI และ บก.ปอศ. บริษัทจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยรายละเอียด ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลได้ ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนเอกสารแนบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในขณะที่ DSI และ บก.ปอศ.ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป