บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2566 ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566 มีมติอนุมัติให้ BKV-BPP Power LLC1 ("BKV-BPP") บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าทำรายการเกี่ยวโยงกัน เพื่อซื้อสินทรัพย์และเช่าที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sunshine จาก BKV Barnett LLC ("Barnett") บริษัทย่อยที่บมจ.บ้านปู (BANPU) ถือหุ้นผ่าน BKV Corporation ("BKV") ในอัตราร้อยละ 100 ซึ่งบมจ.บ้านปูถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยถือหุ้นบริษัทฯ ในอัตราร้อยละ 78.66 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
BKV-BPP จะต้องจ่ายค่าตอบแทนในครั้งนี้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,882,776.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่า 134,456,684.39 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 34.629 บาท ต่อเหรียญสหรัฐฯ) โดยจะดำเนินการลงนามในสัญญาภายในสิ้นเดือนกันยายน 2566
แบ่งเป็น มูลค่าการลงทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sunshine จำนวนรวม 3,355,391.96เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 116,193,868.17 บาท และ มูลค่าการเช่าที่ดินตลอดระยะเวลา 30 ปีขนาด 15 เอเคอร์จำนวนรวม 527,385 เหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า18,262,816.19 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนกลยุทธ์การมุ่งขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน และให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 นั้น บริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาสการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sunshineในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งนับเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกของบริษัทฯ
จากการพิจารณาในเรื่องของมูลค่าการลงทุน และการประเมินความเสี่ยงในการขออนุญาตใช้ที่ดินและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสมภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ มีความเห็นว่าการลงทุนซื้อสินทรัพย์และวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจาก Barnett ที่ได้มีการจัดซื้ออุปกรณ์ที่สำคัญของโครงการไว้เรียบร้อยแล้วนั้น อยู่ในช่วงราคาที่มีความเหมาะสมอ้างอิงจากราคาตลาด หรือราคายุติธรรม นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sunshineจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการผนึกกำลังร่วมกับธุรกิจในกลุ่มของบริษัทฯ ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความต้องการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาจ้างบริหารงาน (Management Service Agreement: MSA) กับ BANPU ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาจ้างบริหารงาน เป็นจำนวนเงิน 284,200,000 บาท โดยบริษัทฯ จะชำระค่าจ้ งบริหารงานเป็นรายเดือน โดยใช้เกณฑ์การตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost Plus Pricing) เป็นหลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าจ้างบริหารงาน
และคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ BKV-BPP Power LLC1 ("BKV-BPP") บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าทำสัญญาบริการ (Administrative Services Agreement: ASA) กับ BKV Corporation ("BKV") บริษัทย่อยที่ BANPU ถือหุ้นร้อยละ โดย BKV-BPP จะต้องจ่าย ค่าตอบแทนตามสัญญาบริการเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,226,398 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่า 111,726,936.34 บาท (อัตราแลกเปลี(ยน 34.629 บาท ต่อเหรียญสหรัฐฯ)
ทั้งนี้ BKV-BPP บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาบริการ (Administrative Services Agreement) กับ BKV เป็นระยะเวลา 1 ปีเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565โดยสัญญาดังกล่าวจะสิ้นสุด ลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับบริการจาก BKV ในการบริหารโรงไฟฟ้า Temple I ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่ง BKV มีความรู้ความชำนาญในการบริหารงานและมีทักษะในการจัดการ รวมทั้งมีความพร้อมสำหรับการให้บริการด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ BKV-BPP นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามการซื้อขายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple II ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการบริหารงานโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุน จากการพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างการที่ BKV-BPP จะดำเนินการจัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และการบริหารงานของธุรกิจเองนั้น กับการจ้าง BKV เพื่อบริหารจัดการให้กับงานดังกล่าวนั้น บริษัทฯ มีความเห็นว่าการจ้าง BKV นั้น มีประโยชน์ต่อ BKV-BPP ทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานและการลดต้นทุน เนื่องจากบุคลากรของ BKV มีความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ โดย BKV-BPP จะทำสัญญาบริการเป็นระยะเวลา 7 เดือน เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566?30 มิถุนายน 256 7โดยอัตราค่าบริการจะชำระเป็นรายเดือน และจะมีการปรับค่าบริการตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง คิดเป็นมูลค่าตอบแทนตามสัญญาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 111,726,936.34 บาท