บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในผู้นำการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากครบวงจรด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ มาตรฐานระดับสากล พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,382.90 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SAFE"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาด หลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวด ธุรกิจการแพทย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SAFE" ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566
SAFE ดำเนินธุรกิจศูนย์การแพทย์เพื่อรักษาผู้มีบุตรยากครบวงจรด้วยวิธี Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) การแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ อสุจิ และตัวอ่อน การให้บริการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์ รวมถึงห้องปฏิบัติ การด้านพันธุศาสตร์ ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 22 ปี นักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ประกอบกับการ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้มีอัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์เฉลี่ยสูงถึง 40-75% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย อุตสาหกรรม โดยบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้วแห่งแรกของประเทศไทยจากสถาบัน Reproductive Technology Accreditation Committee (RTAC) ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีทั้งหมด 5 สาขาครอบคลุม พื้นที่ใน กทม. และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในประเทศ
SAFE มีทุนชำระแล้ว 303,947,800 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้ง แรก (IPO) จำนวนรวม 76,748,600 หุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน 23,947,800 หุ้น หุ้นสามัญเดิมของ Piccadilly Peak Limited 52,800,800 หุ้น โดยเสนอขายให้แก่ นักลงทุนสถาบัน 40.00 ล้านหุ้น บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 23.16 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย 11.50 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ และพนักงานของ บริษัทและบริษัทย่อย 2.09 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 25 - 27 ตุลาคม 2566 ราคาหุ้นละ 21.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 502.90 ล้าน บาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,382.90 ล้านบาท โดยมีบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายแพทย์วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) เปิดเผยว่าการเข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจและการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถใน การแข่งขัน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านรักษาผู้มีบุตรยาก การวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์ และ Wellness ในภูมิภาค เอเชีย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ และขยายสาขาและให้บริการด้านห้องปฏิบัติการ เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
SAFE มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มกว้างคณานุรักษ์ ถือหุ้น 60.92% 2) นอร์ท ฮาเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ แซทเทิร์น คอมแพนี (ฮ่องกง) ลิมิเต็ด (บริษัทที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของฮ่องกง ซึ่งมี General Partner คือ Morgan Stanley) ถือหุ้น 12.50% และ 3) นางสาวชนิดา พัธโนทัย ถือหุ้น 0.55% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากการสำรวจ ความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจาก งบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามกฎหมาย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับหลักทรัพย์บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป
รับหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ ชื่อบริษัท : บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SAFE) ชื่อย่อหลักทรัพย์ : SAFE ตลาดรอง : SET กลุ่มอุตสาหกรรม : บริการ หมวดธุรกิจ : การแพทย์ วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน : 02 พ.ย. 2566 วันที่เริ่มทำการซื้อขาย : 02 พ.ย. 2566 จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 303,947,800 จำนวนหุ้นชำระแล้ว (หุ้นสามัญ)(หุ้น) : 303,947,800 ราคา Par (บาทต่อหุ้น) : 1.00 ทุนชำระแล้ว (บาท) : 303,947,800.00 จำนวนหุ้น IPO (หุ้น) : 76,748,600 จำนวนหุ้น IPO ประกอบด้วย : หุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายประชาชนทั่วไป จำนวน 23,947,800 หุ้น หุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมที่เสนอขายประชาชนทั่วไป จำนวน 52,800,800 หุ้น จัดสรรให้แก่ : ประชาชนทั่วไป จำนวน 76,748,600 หุ้น ราคา IPO (บาท) : 21.00 วันที่เสนอขาย IPO : วันที่ 25 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 27 ต.ค. 2566
SAFE ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ตั้งแต่ให้คำแนะนำและคำปรึกษาตลอดจน ติดตามผลการปฏิบัติการโดยผู้ดูแลลูกค้าส่วนบุคคล (personal assistant) ที่จะช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหามีบุตรยากมีบุตรตามความประสงค์ และเติมเต็มครอบครัวโดยใช้เทคโนโลยีที่นำสมัยมีมาตรฐานและความปลอดภัย