บมจ.บีซีพีจี (BPCG) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจำหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนทั้งหมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง รวม 116.96 MW ได้แก่
1. การจำหน่ายหุ้นสามัญในบริษัท BCPG Japan Corporation K.K. (BCPGJ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 1 โครงการ
2. การจำหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 7 โครงการ (TK Interests)
3. การจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญในบริษัท Huang Ming Japan K.K. (HMJ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และเป็นเจ้าของเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 1 โครงการ
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ที่ถูกจำหน่ายกับกลุ่มบริษัท Obton A/S โดยมีราคาซื้อขายรวม 28,712 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 6,935 ล้านบาท
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCPG เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัทในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด รวมมูลค่าซื้อขาย 42,970 ล้านเยนหรือ 10,377 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 24.15 บาท ต่อ 100 เยน) ประกอบด้วยส่วนของมูลค่าหุ้น 6,935 ล้านบาทและส่วนของหนี้สินเงินกู้โครงการสุทธิ 3,442 ล้านบาท มั่นใจว่าธุรกรรมการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงภายในไตรมาสแรกปี 67
การจำหน่ายสินทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นเป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ ในการเข้าพัฒนาโรงไฟฟ้าตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างจนกระทั่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ แล้วทำการจำหน่ายให้แก่นักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดที่มั่นคง เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรสูงสุด โดยบริษัทฯ ได้เริ่มลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 59 ซึ่งมีโครงการฯ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเพียง 13 เมกะวัตต์ ณ ขณะนั้น และต่อมาบริษัทฯ ได้ทำการพัฒนาและก่อสร้างโครงการฯเพิ่มเติมอีก 132 เมกะวัตต์ รวมถึงได้ทำการขายโครงการฯ 2 โครงการ รวมจำนวน 28 เมกะวัตต์ ไปในปี 61 ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 117 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 104 เมกะวัตต์และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 13 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่มีคุณภาพ สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกหลายรายที่ต้องการลงทุน
การจำหน่ายโครงการฯ ทั้งหมดในญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายกับต้นทุนทางบัญชี คาดว่าจะทำให้มีส่วนต่างกว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างผลตอบที่ดีแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำกระแสเงินสดจากการจำหน่ายโครงการฯ กลับมาใช้รองรับโครงการลงทุนใหม่ๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
"โครงการของบีซีพีจีและแพลตฟอร์มการบริหารจัดการโครงการในญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนระดับโลกหลายรายในการเสนอซื้อสินทรัพย์ เป็นการตอกย้ำว่า โครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ได้รับการพัฒนาและบริหารจัดการในมาตรฐาน world class รวมถึงยังสามารถสรรหาและพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ มีระบบการบริหารจัดการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล" นายนิวัติ กล่าว