บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจ Generative AI ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ โดยจะเข้าทำสัญญากับ บริษัท เคที คอร์ปอเรชั่น (KT) เพื่อออกแบบพัฒนา Model และสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม Generative AI วงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนในธุรกิจ Generative AI ซึ่งต้องพัฒนา Model เพื่อการเรียนรู้ Large Language Model ภาษาไทย เพื่อใช้สำหรับนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นบริการลักษณะเฉพาะให้แก่ลูกค้าทั้งระดับ B2G, B2B และ B2C โดยร่วมมือกับ KT ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้และมีความเชี่ยวชาญด้าน Internet Data Center และระบบปฏิบัติการด้าน AI ซึ่งได้ เปิดตัว Generative AI ภาษาเกาหลี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในประเทศเกาหลีไปเมื่อปี 2566 บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวบริการในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในปลายปี 2567 และมีเป้าหมายที่จะขยายการให้บริการไปยังประเทศต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปในอนาคต
กลุ่ม JTS เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญการเชื่อมต่อโครงข่ายในประเทศและภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี AI โดยสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม Generative AI เพื่อให้บริการที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่บริการโครงสร้างพื้นฐาน, บริการด้านโมเดล, บริการด้านแพลตฟอร์ม ตลอดจนการให้บริการด้านซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการลูกค้าทั้งระดับ B2G, B2B และ B2C และมีแผนการผสานเทคโนโลยี AI เข้าไว้ในกระบวนการทำงานของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อยกระดับความสามารถทางเทคโนโลยีภายในองค์กร ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยีAI วิเคราะห์ข้อมูล สร้างระบบเพื่อช่วยบริหารจัดการและประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว ซึ่งจะสามารถสร้างรากฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ต่อไป
พร้อมกันนั้น คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจาก บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการลงทุนธุรกิจ Generative AI ภายในวงเงินไม่เกิน 400 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 12 ล้านบาท
JTS เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทวางแผนเพิ่มการใช้พลังงานทางเลือกมาใช้ในเหมืองขุด Bitcoin เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ขณะที่สิ้นปี 66 บริษัทสะสม Bitcoin ในมือกว่า 245.88630025 เหรียญ มีลุ้นราคาเหรียญ Bitcoin พุ่งจากปัจจัยบวกหลายปัจจัยในปี 2567 ทั้งการ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.67 การอนุมัติ BTC ETFs ของ ก.ล.ต. สหรัฐ ที่จะทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนใน Bitcoin ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งปัจจัยบวกที่รอลุ้นอย่างอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงในปี 67 ซึ่งจะส่งเสริมให้เงินทุนหมุนมายังตลาด Bitcoin มากขึ้นได้
สำหรับผลการดำเนินงานพลิกทำกำไรในปี 66 ที่ราว 111 ล้านบาท จากปี 65 ขาดทุน 105 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตรายได้เติบโตขึ้น 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากการขยายโครงข่าย และ data center ให้ตอบโจทย์ลูกค้า