บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติ และเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี2567 อนุมัติการลดทุนจดทะเบียน 491,006,277.50 บาท จากเดิม 6,406,026,518.00 บาท เป็น 5,915,020,240.50 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 982,012,555 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1,779,694,858.50 บาท เป็น 7,690,788,791.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 3,559,389,717 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) และจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 4 (WAVE-W4) และจัดสรรรองรับการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (WAVE-W3)
ส่วนแรก 2,303,125,446 หุ้น จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม RO ที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิจองซื้อ (Record Date) ในวันที่ 9 พ.ค.67 อัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.14 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 322,437,562.44 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 31 พ.ค.และวันที่ 4-7 มิ.ย.67
ส่วนที่ 2 จะจัดสรรจำนวน 1,151,562,723 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ WAVE-W4 ที่จะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ได้จองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน RO ในอัตราส่วน 2 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ WAVE-W4 มี อัตราการใช้สิทธิตาม 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ต่อ 1 หุ้นสามัญ และราคาใช้สิทธิ 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิ 3 ปี
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนและการใช้เงินทุน
1) ขยายธุรกิจและ/หรือลงทุนในโครงการใหม่
- สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกกลายเป็ นปัญหาส คัญของนานาชาติ และวาระที่สำคัญสำหรับประเทศไทยดด้วย บริษัทจึงเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนทั้งระดับองคก์รในไทยและระดับประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้ บริษัทได้ขยายธุรกิจ และลงทุนในโครงการใหม่
1. ด้านการพัฒนาโครงการ (Project Development) ในประเทศไทย รองจากภาคพลังงาน ภาคเกษตรกรรมเป็ นภาคที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดอันดับ 2 บริษัทกำลังเริ่มโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตร โดยเริ่มต้นเป็นคณะทำงานในกรมวิชาการเกษตรเพื่อวิจัยวิธีลดก๊าซเรือนกระจกในการเกษตร โครงการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรเป็นแนวทางที่ประชาคมโลกกำลังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นแนวทางที่มีศักยภาพเชิงต้นทุนเมื่อเทียบกับการลดก๊าซเรื อนกระจกในภาคกิจกรรมอื่น ๆ และยังมีแนวโน้มที่จะแก้ปัญหาการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาวได้อีกด้วย รวมทั้งเกษตรกรยังสามารถนไปสร้างรายได้เพิ่มผ่านการขายผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำได้รายได้เสริมจากการรับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
2. โครงการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง (Alternate Wetting and Drying : AWD) เป็นอีก 1 โครงการเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากการลดปริมาณมีเทน (Methane) ได้และยังสามารถเพิ่มผลผลิตอีกด้วย ทางบริษัทได้มีการศึกษาการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งเพื่อเป็นโครงการที่ภาคเอกชนสามารถเข้าร่วมและให้การสนับสนุนเพื่อนำส่วนลดของก๊าซเรือนกระจกไปชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององคก์รได้(โดยออกเป็นรายงานหรือขึ้นทะเบียนเป็นคาร์บอนเครดิต) มาเป็นระยะเวลา 1 ปีโดยเริ่มที่นาสาธิตที่ จ.ปทุมธานี พื้นที่ 20 ไร่ ในปัจจุบัน บริษัท ได้การขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตมาตรฐาน Premium TVER และได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐต่างๆ เช่น สภาเกษตรและเกษตรปลอดภัย มีการขยายโครงการไปยัง จ.สุพรรณบุรี ด้วยขนาดพื้นที่ 4,000 ไร่ โดยมีเป้าหมายที่จะขยายไปถึง 400,000 ไร่ภายใน 5 ปี
3. พัฒนาธุรกิจซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates หรือ RECs) และธุรกิจการให้คำปรึกษาและวางแผนด้านคาร์บอนเครดิต บริษัททำหน้าที่ในการจัดหาใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในการใช้พลังงานหมุนเวียน (เป้า RE100) ขององค์กรบริษัทมีการศึกษา การออกและเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล ลงทุนใน RECs เพื่อสนับสนุนการขยายกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลงังานหมุนเวียน สร้างเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าและขับเคลื่อนการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของประเทศ
4. พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Tech) การนำเทคโนโลยี อาทิ แอปพลิเคชันมือถือส หรับเกษตรกร โดรน และภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อใช้ในการตรวจวัด การรายงาน และการสอบทาน (MRV) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ปราศจาการฟอกเขียว ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนให้องคก์รสามารถลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการลงทุนในโครงการรักษ์โลก
- ธุรกิจด้านการศึกษา
1. ขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในฐานะที่ Wave Education เป็ นผู้มีความเชี่ยวชาญ และความพร้อมในการให้บริการการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับต้นๆของตลาด (Wall Street English) ซึ่งเดิมเน้นกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 15 ขึ้นไป บริษัทเล็งเห็นถึงลูกค้ากลุ่มอายุต่ำกว่า 14 ปี ลงมา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญและสามารถเติบโต ทำให้โครงสร้างการให้บริการของบริษัทครอบคลุมทุกช่วงอายุ
2. ขยายธุรกิจด้านการสอนภาษาอื่นๆ โดยให้ความสำคัญกับภาษาจีน
3. ขยายธุรกิจด้าน Innovation & Lifestyle บริษัท้องการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนปัจจุบัน โดยการขยายธุรกิจด้าน Innovation & Life Style อาทิ การเขียน Codingและ Robotics ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะเป็น Trend ที่ได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างแน่นอน