นางสาววิไล ศิริพูลเกียรติกุล ผู้มีอำนาจลงนาม บมจ.ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC) ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/51 มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท ลดลง 9 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นอัตรา 21.5% ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 50 ซึ่งมีอัตราอยู่ที่ 26.6% สาเหตุหลักเนื่องจากโครงการภาคสนามที่แยกอิสระตามที่ตั้งของลูกค้ารายหนึ่งมีต้นทุนค่าแรงสูงเกินกว่าประมาณการ 22.7 ล้านบาท
โครงการดังกล่าวเลูกค้าเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ คือ ท่อเหล็กและแผ่นเหล็กมาให้ใช้ในการผลิต สาเหตุที่ต้นทุนค่าแรงสูงกว่าประมาณการ คือ แผนงานและข้อตกลงเบื้องต้น กำหนดว่าลูกค้าจะจัดหาสถานที่ทำงาน หรือโรงงานใกล้ที่ตั้งโครงการเพื่อเป็นที่ทำงานให้ช่างเชื่อมของบริษัทเพื่อทำงานประกอบ แล้วจึงส่งไปติดตั้งที่หน่วยงานภาคสนาม(site)
บริษัทฯ วางแผนงานโดยพยายามจะทำงานที่โรงงานให้มากที่สุด เนื่องจากค่าแรงที่โรงงานจะถูกกว่าค่าแรงที่ภาคสนามโดย ได้ประมาณสัดส่วนการทำงานไว้ว่า 60% ของงานจะทำภายในโรงงานที่จัดให้โดยใช้ช่างเชื่อมและคนงานของบริษัทลักษณะงานเป็นงานในพื้นราบ ส่วนงานอีก 40% จะทำงานที่ภาคสนาม ณ ที่ตั้งโครงการโดยว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยลักษณะงานจะเป็นงานที่ต้องทำงานในแนวระดับที่สูง ซึ่งค่าแรงจะสูงกว่าค่าแรงที่โรงงานประมาณ 2 เท่า
แต่เนื่องจากความล่าช้าในการออกแบบ และการจัดหาวัตถุดิบจากลูกค้า ทำให้งานที่วางแผนไว้ว่าจะทำภายในโรงงานโดยช่างและคนงานของบริษัทฯ ต้องลดทอนลงและย้ายไปทำ ณ ที่ตั้งโครงการแทนเพื่อชดเชยเวลาที่ลูกค้าล่าช้า และเพื่อให้งานเสร็จทันตามกำหนดเวลา จึงเป็นเหตุทำให้สัดส่วนต้นทุนการใช้ช่างเชื่อมและแรงงานของบริษัท ต่อ ผู้รับเหมารายย่อยและแรงงานที่ภาคสนาม เปลี่ยนจาก 60 : 40 เป็น 30 : 70 ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ต้นทุนค่าแรงงานสูงขึ้น 60% หรือประมาณ 22.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานโครงการดังกล่าวเป็นของลูกค้าเก่าแก่มานาน และยังมีอีกหลายโครงการที่ยังดำเนินการอยู่บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามสัญญา ถ้าบริษัทฯ ไม่นำผลการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวมาพิจารณา บริษัทฯ จะยังคงทำกำไรขั้นต้นได้ในระดับใกล้เคียงกับปี 50
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--