บมจ.เสริมสุข (SSC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2567 เมื่อ 3 ก.ค.67 รับทราบหนังสือแจ้งความประสงค์ของบริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นบริษัทย่อยของบมจ. ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่ง ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2566 โซวอเตอร์ถือหุ้นสามัญในบริษัทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 171,954,804 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 64.67% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
โดย โซ วอเตอร์ มีความประสงค์ในการเข้าทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของบริษัทจำนวน 93,945,680 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35.33% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท ในราคาเสนอซื้อ 63.00 บาทต่อหุ้น
เหตุผลการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก
1.การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะช่วยให้การบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากการลดขั้นตอนการดำเนินการต่างๆของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารกิจการและการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องด้วยกลุ่มไทยเบฟอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และ/หรือเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยอาจมีการดำเนินการปรับโครงสร้างภายในและการปรับโครงสร้างของธุรกิจในด้านต่าง ๆ (ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สินหรือสิทธิต่าง ๆ การควบรวมกิจการ การโอนสิทธิตามสัญญาทางการเงิน การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแนวทำงในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน ตลอดจนการระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น) โดยที่การปรับโครงสร้างดังกล่าวอาจประกอบด้วยการทำรายการหรือธุรกรรมระหว่ำงบริษัท และ/หรือบริษัทในกลุ่มไทยเบฟ
การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการของบริษัทและเป็นการรองรับแผนการปรับโครงสร้างข้างต้นด้วย
2. เนื่องจากในปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีจำนวนไม่มากนัก การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจะเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัท โดยเป็นการช่วยเพิ่มทางเลือกและโอกาสในการขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรำยย่อยของบริษัท
3. เนื่องจากภายหลังการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท บริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกต่อไป การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม และหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนด้วย
บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของผู้เสนอซื้อ และบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ