บมจ.กิฟท์ อินฟินิท (GIFT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติบริษัท กิฟท์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (GH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) ได้แก่ (1) บริษัท บีม เอ็กซ์ จำกัด (BEAMX) และ (2) บริษัท มอมส์ ทัช (ประเทศไทย) จำกัด (MOM'S TOUCH) ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ เพราะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกันคือกลุ่มเชษฐโชติศักดิ์ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 255,713,861.36 บาท คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมการเข้าซื้อสินทรัพย์จะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 2 กันยายน 2567
รายการที่เข้าซื้อเป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มของร้านค้าและสาขาดังต่อไปนี้
BEAMX : (1) ร้าน BEAM CUBE (2) ร้าน BEAM CLUB และ (3) ร้าน BEER BELLY
MOM?s TOUCH : (1) สาขาเซ็นทรัลพระราม (2) สาขาเอส-โอเอซิส (3) สาขาไอซีเอส (4) สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ (5) สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ (6) สาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค
นายโชติ เชษฐโชติศักดิ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GIFT กล่าวว่า บริษัทส่ง GIFT Hospitality เข้าลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีศักยภาพสูง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยร้านอาหารดังกล่าว ประกอบด้วย BEAM Club และ BEAMCUBE ร้านแฮงก์เอาต์ยอดนิยม Beer Belly ร้านอาหารไทยฟิวชัน OKONOMI ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังจากนิวยอร์ก และ Mom?s Touch ร้านเบอร์เกอร์และไก่ทอดจากเกาหลี รวมทั้งหมด 12 แห่ง ทั้งยังรับโอนสัญญาเช่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของร้านทั้งหมด เพื่อดำเนินธุรกิจ Food & Beverage ตามแผนที่วางไว้อย่างเต็มที่ พร้อมต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่องรับเทรนด์ปัจจุบัน
"ปัจจุบัน ตลาดอาหารและเครื่องดื่มยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นร้านแฮงก์เอาต์ที่มีแนวโน้มเติบโตควบคู่กับภาคการท่องเที่ยว ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการสังสรรค์ร่วมกับเพื่อนฝูง ด้านธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยก็ยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง สะท้อนจากจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นประเทศไทยที่มีมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ประกอบกับ OKONOMI เองเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพ สอดรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน สำหรับธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน Mom?s Touch ก็เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดจากประเทศเกาหลี สามารถโตไปกับเทรนด์อาหารเกาหลีที่กำลังอยู่ในกระแส
ในขณะเดียวกัน GIFT ก็มุ่งดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน โดยเน้นที่ธุรกิจที่มีมาร์จินสูง พร้อมกับศักยภาพที่จะปรับตัวให้เท่าทันทุก Disruption ไปจนถึงสามารถ Scale Up และเติบโตได้ในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ GIFT Hospitality ภายใต้ GIFT จึงตัดสินใจลงทุนในร้านอาหารและสถานที่แฮงก์เอาต์ต่างๆ ที่มีศักยภาพสูง" นายโชติ กล่าว
หลังจากได้รับการอนุมัติจากประชุมคณะกรรมการบริษัท GIFT ได้เดินหน้าเข้าซื้อร้านอาหารและสถานที่แฮงก์เอาต์ต่างๆ ภายใต้ 3 สายธุรกิจ ได้แก่
1. กลุ่มร้านอาหาร OKONOMI ร้านอาหารญี่ปุ่นโดยเชฟชื่อดังจากนิวยอร์ก จำนวน 3 สาขา มูลค่ารวม 35.7 ล้านบาท
2. กลุ่มสถานที่แฮงก์เอาต์ ภายใต้ บริษัท บีม เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งมีสถานที่แฮงก์เอาต์ในเครือ ได้แก่ BEAM Club และ BEAMCUBE รวมถึงร้านอาหารไทยฟิวชัน Beer Belly มูลค่ารวมกว่า 195.1 ล้านบาท
3. กลุ่มร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant) ภายใต้ บริษัท มอมส์ ทัช (ประเทศไทย) ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านไก่ทอดและเบอร์เกอร์นำเข้าจากเกาหลี ได้แก่ ?Mom?s Touch? จำนวน 6 สาขา มูลค่ารวมกว่า 60.6 ล้านบาท
รวมร้านอาหารและสถานที่แฮงก์เอาต์ทั้งหมด 12 แห่ง มูลค่ารวมทั้งสิ้น 291.4 ล้านบาท
"ร้านอาหารต่างๆ ที่บริษัทฯ เข้าซื้อล้วนมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่โดดเด่น ด้วยคุณภาพและประเภทอาหารที่หลากหลาย รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ใน Prime Location เข้าถึงง่ายทั้งสำหรับผู้บริโภคทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งยังมีศักยภาพในการขยายสู่แบรนด์ใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอได้อีกในอนาคต โดยหลังจากที่ร้านอาหารเหล่านี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ GIFT อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ โดย OKONOMI จะมุ่งเน้นการขยายร้านในรูปแบบ Cafe Module ซึ่งใช้เงินลงทุนต่ำ ทำให้สามารถขยายได้รวดเร็ว ด้านร้านแฮงก์เอาต์ภายใต้ BEAMX จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน Mom?s Touch จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Food & Beverage ได้ภายในไตรมาส 4/67 พร้อมสร้างการเติบโตให้กับ GIFT ตามแผนได้ทันที" นายโชติ กล่าว