ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศปลดเครื่องหมาย SP หุ้นบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ในรอบเช้าวันที่ 16 ก.ค.67 หลังจากบริษัทชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
โดย EA ชี้แจงเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ สืบเนื่องจากการพ้นจากตำแหน่งของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากกรณีถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ
ในส่วนหนี้สินเงินต้นที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 จำนวน 19,505 ล้านบาท บริษัทได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปก่อนหน้านั้นเป็นในส่วนภาระการชำระหนี้ระยะยาวของบริษัทรวมทั้งหุ้นกู้โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวมดอกเบี้ยที่ต้องชำระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดำเนินการชำระตั้งแต่วันที่ชี้แจง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินหลายแห่งซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1 มีอยู่ที่ 8,354 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทไม่ได้ชี้แจงเนื่องจากวงเงินกู้ระยะสั้นนั้นโดยปกติบริษัทจะทำการ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว
ขณะที่หุ้นกู้ของบริษัทมี 16 ชุด รวมมุลค่า 31,166 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้งหมดที่บริษัทมีนั้นเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน และมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น
โดยภายหลังเดือนมีนาคม 2567 ถึง ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังไม่มีการก่อภาระหนี้สินระยะยาวเพิ่มเติม
จากเดิมบริษัทมีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมาสำหรับเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด และมีแผนที่จะชำระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2567 ด้วย
1) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานโดยไตรมาสที่ 1/67 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจำนวน 1,900 ล้านบาท และบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท
2) วงเงินกู้จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน
3) หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จำนวนและวันเสนอขาย อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจำหน่าย โดยบริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปีและ 3 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partners เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัทฯ กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตำแหน่งบริหารสำคัญ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ รวมถึงกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนำบริษัทก้าวผ่านวิกฤตได้
สำหรับนายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุน และเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี
ทั้งนี้หากบริษัทฯ มีความคืบหน้าเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป