COCOCO ซื้อรง.-โกดังที่ราชบุรี 40 ลบ.รับขยายกำลังผลิต-จัดเก็บสินค้า, ตัดขาย JLM หลังขาดทุน 3 ปีติด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 12, 2024 13:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 7/2567เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตั้งอยู่ที่ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จากบริษัท ฮาร์โมนี่อะกริ บิสสิเนส จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าและการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยกำหนดราคาซื้อขายทั้งสิ้นไม่เกิน 40 ล้านบาท โดยเป็นที่ดิน จำนวน 1 แปลง โฉนดที่ดินเลขที่ 7372 เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารสำนักงานและคลังสินค้า โดยมีอายุการใช้งานประมาณ 20 ปี

การซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากบริษัท ฮาร์โมนี่ อะกริ บิสสิเนส จำกัดจะทำให้บริษัทฯ มีพื้นที่เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าและการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ส่งผลให้บริษัทฯ มีการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายและค่าเช่าคลังสินค้าได้ด้วย

บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินสัดส่วนร้อยละ 90 และกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ สัดส่วนร้อยละ 10 โดยการกู้ยืมดังกล่าวจะไม่มีเงื่อนไขที่อาจกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นและผลกระทบต่อ D/E Ratio ตามที่เงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นสามัญในบริษัท จัสท์ไลค์ แอนด์ มอร์ จำกัด (JLM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 59.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เป็นจำนวน 119,997 หุ้น ให้กับบริษัท ครีเอทีฟ ฟู๊ด โซลูชั่น จำกัด ในราคาซื้อขาย หุ้นละ 17.37 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 2,084,347.89 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทฯ กับผู้ซื้อโดยอ้างอิงจากมูลค่าตามบัญชีของ JLM ตามงบการเงินของ JLM ประจ ปี 2566 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี ผู้ซื้อตกลงชำระราคาหุ้นที่ซื้อขายในรูปแบบเงินสด เมื่อผู้ขายตกลงโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นที่ซื้อขายเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเกิดรายการ ภายในไตรมาส 3 ปี 2567

ดังนั้น มีผลทำให้ JLM สิ้นสภาพจากการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เนื่องจาก JLM มีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสม (ปี 2564 จำนวน 1.09 ล้านบาท, ปี 2565 จำนวน 5.36 ล้านบาท และปี 2566 จำนวน 16.53 ล้านบาท) และการขายหุ้นใน JLM ทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบด้านบัญชีของบริษัทฯ ทั้งนี้ การเข้าทำรายการดังกล่าวไม่มีผลกระทบใดต่อบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ