SE ร่วมทุนกับ PPM ตั้งบริษัทใหม่รุกลงทุนธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday September 8, 2024 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สยามอีสต์ โซลูชั่น (SE) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2567เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ว่าอนุมัติเห็นด้วยในหลักการและเหตุผล การเข้าร่วมลงทุน เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยบริษัทฯ เข้าลงทุนร่วมกับ บริษัท พีพีเอ็ม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (PPM) จำนวนทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 20%

โดยการเข้าร่วมลงทุนในบริษัทใหม่นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นหาโอกาสในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจโซล่าร์ฟาร์ม ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานสะอาดและยั่งยืนในปัจจุบันโดยดำเนินการตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งจะต้องทำการเปิดบริษัทใหม่ ที่มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคม ในประเภทธุรกิจ การผลิตและการส่งไฟฟ้า คือการผลิตกระแสไฟฟ้าจำนวนมากการส่งกระแสไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปยังศูนย์จ่าย และส่งไปยังผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งรวมถึงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตพลังงานไฟฟ้ารวมทั้ง ความร้อน นิวเคลียร์ไฟฟ้าจากพลังน้ำ กังหัน ก๊าซ ดีเซล พลังงานแสงอาทิตย์ (solar cell) และพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทนอื่นๆ การติดตั้งระบบ การส่งกระแสไฟฟ้า ซึ่งส่งจากแหล่งผลิตไปยังระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป แต่ไม่ได้เป็นหน่วยงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

บริษัทฯ เห็นว่าการเข้าร่วมลงทุนกับ PPM ตามโครงสร้างข้างต้น เป็นการจัดโครงสร้างที่เป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดของบริษัทฯ ด้วยเหตุผลเพื่อการส่งเสริมลักษณะการประกอบธุรกิจของแต่ละบริษัท

โดยลักษณะการประกอบธุรกิจ PPM ได้แก่ การเช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นเพื่อเป็นที่พักอาศัยซึ่ง ในขณะที่ บริษัทฯ เป็นบริษัทจัดหาและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมและให้บริการต่างๆ เกี่ยวข้องแก่โรงงาน อุตสาหกรรม แบ่งเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีระบบปั๊ม กลุ่มการจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ กลุ่มวัสดุ นวัตกรรม กลุ่มธุรกิจงานบริการ และกลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงาน

ดังนั้น ลักษณะการประกอบธุรกิจทั้ง 2 บริษัทแตกต่างกัน บริษัทฯ เล็งเห็นว่าธุรกิจสามารถเติบโตได้ในอนาคต เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมารวมกัน จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถเติบโตและสร้างผลกำไรในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ