บมจ.เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น (AKS) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 อนุมัติให้บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (GEP) จำนวน 2,703,260 หุ้น คิดเป็น 12% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของ GEP จาก บมจ. เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META) ในราคาทั้งสิ้น 750 ล้านบาท โดยจะมีการวางหลักประกันซึ่งมีมูลค่าไม่น้อยกว่าเงินค่าตอบแทนที่ค้างชำระ ซึ่งคู่สัญญาจะตกลงกันเพิ่มเติมในรายละเอียดของหลักประกัน ทั้งนี้จะทำให้ AKS จะเข้าถือหุ้นใน GEP ทางอ้อมทั้งสิ้น 5,293,883 หุ้น คิดเป็นประมาณ 23.5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของ GEP (ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ ถือหุ้นใน GEP ทางอ้อมจำนวนทั้งสิ้น 2,590,623 หุ้น)
GEP เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนจำนวน 2,252,716,300 บาท โดยเป็นผู้ถือหุ้น 100% ใน GEP (Myanmar) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 170 MW AC ตั้งอยู่ที่ Sagu Township, Minbu District, Magway Region สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
รายชื่อผู้ถือหุ้นของ GEP หลังทำรายการ ประกอบด้วย
1. บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCAN) 9,010,866 หุ้น คิดเป็น 40.0000%
2. บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด 4,505,433 หุ้น คิดเป็น 20.0000%
3 บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด 3,455,976 หุ้น คิดเป็น 15.3414%
4. โนเบิล แพลนเน็ต พีทีอี. แอลทีดี. 2,590,623 หุ้น คิดเป็น 11.5000%
5. โมลิน เอ็นเนอร์ยี่ คอมพานี ลิมิเต็ด 1,126,358 หุ้น คิดเป็น 5.0000%
6. บริษัท ธานนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 1,087,907 หุ้น คิดเป็น 4.8293%
7. บริษัท อัลลาย เทคโนโลยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 750,000 หุ้น คิดเป็น 3.3293%
ขณะที่ META ระบุว่า สาเหตุที่ขายหุ้น GEP เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ มีการขยายกลุ่มธุรกิจ จึงต้องการใช้กระแสเงินสด และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัทฯ ได้แก่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการเงิน บริษัทฯ จึงพิจารณาปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
บริษัทจะได้รับกำไรจากค่าขายหุ้น (Capital Gain) โดย GEPT มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 609,550,000 บาท ซึ่งเมื่อบริษัทฯ ขายหุ้นของ GEP ในราคาทั้งสิ้น 750 ล้านบาท จะทำให้บริษัทฯได้รับกำไร 140,450,000 บาท ซึ่งบริษัทสามารถนำมาเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และพัฒนาต่อยอดโครงการของบริษัทได้