บมจ.เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น (HEALTH) ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการประกอบธุรกิจของบริษัทตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สอบถาม หลังจากนำส่งงบการเงินงวด 6 เดือนแรกของปี 67 บริษัทมีรายได้ในงบการเงินเฉพาะกิจการ 11.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้อื่น โดยเป็นรายได้ค่าเช่า 0.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7% ของรายได้รวม ซึ่งตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดว่าบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company) หมายถึงบริษัทที่มีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลักและไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง จะต้องดำรงสถานะเป็น Holding Company เพิ่มเติม คือ บริษัทต้องมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักอย่างน้อย 1 บริษัท ตลอดระยะเวลาที่เป็นบริษัทจดทะเบียน
HEALTH ระบุว่า จากข้อมูลในงบการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการในงบการเงินรวม จำนวน 12.8 ล้านบาท ซึ่งมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร 7.1 ล้านบาท งานบริการโปรแกรมและเครือข่าย จำนวน 5.1 ล้านบาท และงานบริการอื่นๆ 0.6 ล้านบาท
แต่ปรากฏรายได้จากการดำเนินงานในงบการเงินเฉพาะกิจการเพียงรายได้จากการรับจ้างบริหารพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าจาก กิจการเดิม 0.8 ล้านบาท นอกจากนี้จะเป็นรายได้อื่น 10.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท เฮลท์อัพ จำกัด จำนวน 6.3 ล้านบาท รายได้ค่าบริหารจัดการงานบัญชีและกฎหมายแก่ บริษัทย่อย บริษัทย่อยทางอ้อมและบริษัทร่วม (บริษัท เมดิเวล จำกัด, บริษัท เน็คท์ เบ็ทเตอร์ จำกัด บริษัท อาร์บีเอ็น รีเทล จำกัด และ บริษัท เฮลท์อัพ จำกัด) จำนวน 2.9 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยและรายได้อื่นๆ 1.4 ล้านบาท ทำให้พิจารณาได้ว่าบริษัทมีสถานะเป็น Holding Company
ขณะที่บริษัทมีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ คือ บริษัท เมดิเวล จำกัด สร้างรายได้และกำไรหลัก และเมดิเวลในปัจจุบันมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากบริษัท เฮอเบิล เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ที่เมดิเวลถือหุ้น 75% ประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร นอกจากนี้ เมดิเวลยังได้ถือหุ้น 70% ใน บริษัท เน็คท์เบ็ทเตอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการโปรแกรมและเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย อีกทั้งมีแผนในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจปรับเปลี่ยนนโยบายการประกอบธุรกิจเป็น Operating Company ในอนาคตได้หากบริษัทเห็นว่าสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับรูปแบบการประกอบธุรกิจของบริษัทเพิ่มเติม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป