บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 5,936,099,398 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,021,827,399 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 7,957,926,797 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,936,099,398 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (PO) จำนวนไม่เกิน 3,991,099,398 หุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท และจัดสรรหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนไม่เกิน 1,945,000,000 หุ้น ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายไว้ชัดเจนในราคา 1.07 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมไม่เกิน 2,082,826,811 บาท
อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 ได้มีมติยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวเนื่องกับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Preferential Public Offering :PPO) เนื่องจากราคาตลาดต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้น PPO การออกจึงอาจยังไม่เหมาะสมกับสภาวะของตลาดทุน
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการสรรหานักลงทุนที่มีศักยภาพและความสามารถในการส่งเสริมเกื้อกูลต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและโครงการในอนาคตของบริษัท และมีความสามารถในการลงทุน และความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งบริษัทยังไม่สามารถระบุความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและนักลงทุนซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัดที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญได้ว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทหรือไม่
ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะได้รับเงินเพิ่มทุน 5,936 ล้านบาท บริษัทจะนำไปขยายและพัฒนาธุรกิจ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
บริษัทจะนำเงินเพิ่มทุนที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัท เช่น ใช้สำหรับการสั่งซื้อรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ประเภทต่าง ๆ มาจัดจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าประเภทดังกล่าว (สมมติฐานสินค้า คือ รถหัวลาก 10 ล้อ แบตเตอรี่ 423 กิโลวัตต์ จำนวน 400 คัน ต้นทุนเฉลี่ยคันละ 5 ล้านบาท) และจะนำเงินไปชำระหนี้สินหมุนเวียนใน ส่วนของเจ้าหนี้การค้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน (บริษัทร่วม AAB) บางส่วน เป็นเงินจำนวนประมาณ 5,500 ล้านบาท กำหนดการใช้เงินเพิ่มทุน ระหว่างปี 2567 -2568
และบริษัทจะใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตของบริษัทร่วมทุน AAB โดยการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนดังกล่าว หรือในรูปแบบของการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทร่วมทุน AAB เพื่อรองรับการรับจ้างผลิต (OEM) กล่าวคือ การประกอบรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลเป็นเงินจำนวนประมาณ 436 ล้านบาท กำหนดการใช้ เงินเพิ่มทุน ระหว่างปี 2567 - 2568
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนสำหรับโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน โดยมีจำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น 26,277,700 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว กำหนดระยะเวลาจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 1 - 8 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้ กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เวลา 14:00 น.โดยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม(Record Date) ในวันที่ 25พฤศจิกายน 2567