บมจ. เมตะ คอร์ปอเรชั่น [META] รายงานความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในเมืองซะงะ และเมืองวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น และการคงสัดส่วนการถือหุ้นสามัญของบริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
ความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ในเมืองซะงะ ขนาด 50 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,842.86-2,074.70 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 449.69-506.26 ล้านบาท ที่บริษัท วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด (VHJ) บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ได้ลงนามสัญญาการลงทุนเบื้องต้น กับ NuGen Power Company Limited (NuGen) ผู้ขายโครงการ ซึ่ง VHJ ได้วางมัดจำเพื่อเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการรวมทั้งสิ้น 1,741.05 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 395.15 ล้านบาท นั้น ปัจจุบันโครงการ SAGA 50MW ได้ดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ โดยเจ้าของโครงการได้แจ้งข้อขัดข้องทางด้านเทคนิคของโรงไฟฟ้า ซึ่งได้ค้นหาสาเหตุ และแก้ไขปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบทั้งระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตกระแสไฟฟ้าของโครงการจะดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ดำเนินการอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่กำหนดไว้เดือนธันวาคม 2567 เป็นภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568
ดังนั้น การลงทุนในโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการแปลงเงินมัดจำเพื่อการเข้าศึกษาการลงทุนในโครงการจำนวน 1,741.05 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 395.15 ล้านบาท เป็นมูลค่าเงินลงทุนตามสัดส่วนของโครงการทั้งหมด โดยบริษัทฯ ได้ศึกษาและพิจารณาแนวทางการลงทุนแล้ว บริษัทมีแผนที่จะแปลงมัดจำเป็นเงินลงทุนก่อน COD เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในการลงทุนแล้ว บริษัทฯ จะเสนอแก่คณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาการเข้าลงทุนตามหลักเกณฑ์ต่อไป
สำหรับโครงการ SAGA 25MW และ WAKAYAMA 25MW จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อโครงการ SAGA ขนาด 50MW ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันโครงการ SAGA 25MW และ WAKAYAMA 25MW อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนการดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2568 ซึ่งบริษัทฯ จะได้มีการเจรจาและพิจารณาเข้าลงทุนด้วยการแปลงเงินมัดจำส่วนที่เหลือ หรือเงินมัดจำบางส่วนเป็นเงินลงทุนสำหรับอีก 2 โครงการที่เหลือต่อไป
ส่วนการคงสัดส่วนถือหุ้นใน บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (PICO) ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิเศษครั้งที่ 3/2566ได้มีมติอนุมัติลดสัดส่วนการถือหุ้นใน PICO เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 บริษัท อัลลาย เทคโนโลยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Allied) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น [AKS] ได้มีหนังสือมายังบริษัทฯว่ามีความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มในหุ้นของ PICO อีกร้อยละ 38.20 หรือเป็นจำนวน 1,145,986 หุ้น ที่ราคาซื้อขายหุ้นละ 152 บาท โดย Allied สนใจลงทุนเพิ่มเติมก่อนในสัดส่วนร้อยละ 10.96 Allied จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการเข้าศึกษาลงทุนในบริษัทเป้าหมาย ในวันที่ 19 กันยายน 2566 (MOU) กับบริษัท โนว่า เอเชีย จำกัด (NOVA) บริษัทย่อยของบริษัทฯ และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 Allied ได้รับโอนหุ้นไว้แล้ว จำนวน 328,947 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.96 ของหุ้น PICO
และต่อมาเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 Allied ได้มีหนังสือถึง NOVA ขอขยายระยะเวลาวันซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ตามบันทึกความเข้าใจเพื่อการลงทุนเพิ่มเติม อีกร้อยละ 27.24 ของ PICO ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 นั้น เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 NOVA ได้รับแจ้งจาก Allied ว่าไม่ประสงค์จะลงทุนเพิ่มเติม PICO ส่วนที่ยังคงเหลือหุ้นที่จะซื้อขายตาม MOU เป็นจำนวน 817,039 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.24 อีก โดย Allied ขอคงสัดส่วนการถือหุ้นของ PICO จำนวน 652,961 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 21.76 บริษัทฯ จึงได้อนุมัติให้แก้ไขรายละเอียดของ MOU ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน โดยที่ NOVA ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นสามัญใน PICO ร้อยละ 78.24 ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด