AOT แจง "คิงเพาเวอร์" ค้างจ่ายค่าตอบแทนไม่กระทบรายได้ เปิดช่องเจรจาลดค่าปรับล่าช้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 14, 2025 18:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

AOT แจง

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย [AOT] หรือ ทอท. กล่าวกรณีบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) มีปัญหาสภาพคล่อง และมีการเจรจากับทอท.เพื่อขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทนและปรับสัญญานั้น ผู้ประกอบการคู่สัญญาของทอท.มีปัญหาสภาพคล่องมาตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 ซึ่ง ทางคิงเพาเวอร์ฯ ได้ยื่นเสนอขอเจรจาลดค่าปรับกรณีจ่ายค่าตอบแทนล่าช้า ซึ่งตามสัญญากำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะอยู่ที่ 18% ต่อปี หรือ 1.5% ต่อเดือน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยค่าปรับ ซึ่งจะไม่ต่ำกว่า MLR+2%

AOT แจง

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการค้างชำระจ่ายค่าตอบแทนรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยเป็นของคิงเพาเวอร์จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับโครงสร้างดอกเบี้ยค่าปรับล่าช้าจะไม่รวมในส่วนนี้ โดยผู้ประกอบการรายใดต้องการก็ต้องยื่นเสนอและเข้าเจรจา นับตั้งแต่เดือนก.พ. 68 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ เมื่อเดือนม.ค. 68 คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้มีมติบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการและสายการบินจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของทอท.ทั้ง 6 แห่งที่ขาดสภาพคล่อง โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีหลักประกันสัญญาและวงเงินของหลักประกันสัญญาต้องครอบคลุมเงินต้นรวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราดอกเบี้ย 18%

โดยอัตราดอกเบี้ย คำนวนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู่ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง และบวกเพิ่มอีก 2% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะต้องไม่น้อยกว่าต้นทุนทางการเงิน ของทอท. ที่ประมาณ 3% ซึ่งกรณี MLR+2% ไม่กระทบต่อต้นทุนทางการเงินของทอท.

"การปรับลดดอกเบี้ยค่าปรับดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทอท. เพราะทอท.จะยังคงได้รับรายได้เหมือนเดิม หลักการของทอท.คือต้องพยายามทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เป็นการดำเนินธุรกิจปกติ ทั่วโลกเป็นเหมือนกันผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีหลายรายก็มีปัญหาสภาพคล่อง ส่วนทอท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ต้องยึดมั่นในสัญญาไม่สามารถเจรจาเพิ่มเติมได้ ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขสัญญาแต่อย่างใด" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว

*แจงกำไรสุทธิ Q1/68 สูงกว่าที่ AOT คาด

นายกีรติ กล่าวชี้แจงว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 5,344 ล้านบาทนั้น ถือว่าสูงกว่าที่ทอท.คาดและสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนด้วย ซึ่งตัวเลขที่ออกมาถือว่า เหมาะสมตามสัดส่วนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 16.5% ส่วนกรณีการขอคืนพื้นที่จากคิงเพาเวอร์ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อทอท. เพราะเงินหายไป

*เดินหน้าลงทุนขยายสนามบินตามแผน

สำหรับโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งมีการปรับเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้องานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดทอท.แล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน พ.ค. 68

ส่วนโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงินลงทุนรวม 36,829.499 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือนธ.ค.68


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ