ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ บมจ.เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น [AKS] ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตดังนี้ (1) การลงทุนเพิ่มใน บริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (GEPT) โดยเปลี่ยนราคาจ่ายซื้อหุ้นเพิ่มอีก 20% และเปลี่ยนการจ่ายค่าจัดหาหุ้นเป็นค่าคอมมิชชั่น ซึ่งต้องคืนเงินส่วนต่างให้บริษัทแต่ยังไม่ได้รับเงินคืน 255 ล้านบาท (2) การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) แต่บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินเมื่อครบกำหนดชำระได้ (3) การประกอบธุรกิจในอนาคต ซึ่งได้บันทึกด้อยค่าค่าความนิยมในจำนวนที่มีนัยสำคัญ กรณีข้างต้น อาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท
สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 67
1. การลงทุนเพิ่มใน GEPT (ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมา) เมื่อเดือนกันยายน 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ซื้อหุ้น GEPT จาก บมจ. เมตะ คอร์ปอเรชั่น [META] 12% (ปัจจุบันถือ 11.5% เป็นเงินลงทุน 1,382 ล้านบาท) โดยทำสัญญาให้ Planet Energy Holding Pte. (PEH) เป็นผู้เจรจากับ META และได้จ่ายค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้นให้กับ PEH 300 ล้านบาท รวมทั้งเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้จ่ายเงินมัดจำค่าหุ้นแบบเรียกคืนได้ให้กับ META 250 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลให้จะต้องได้รับเงินคืนจาก PEH 255 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับคืน
- วงเงินซื้อหุ้น GEPT 12% ประกอบด้วย เดิม 1,050 ลบ. ปรับลดลงเหลือ 945 ลบ.
- ค่าหุ้น GEPT (จ่ายให้ META) เดิม 750 ลบ. ปรับเพิ่มเป็น 900 ลบ. (20%) จ่ายไปแล้ว 250 ล้านบาท
- ค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น / ค่าคอมมิชชั่น (จ่ายให้ PEH) เดิมเป็นค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น 300 ลบ. จ่ายไปแล้วทั้งจำนวน ปรับเป็นค่าคอมมิชชั่น 5% เท่ากับ 45 ลบ.
ทั้งนี้ ปี 67 บริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของหุ้น GEPT 798 ล้านบาท (58% ของเงินลงทุน) ทำให้เงินลงทุนลดลงจาก 1,382 ล้านบาท เหลือ 585 ล้านบาท และผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตของการลงทุนเพิ่มเติมตามข้างต้น
ตลท.ขอให้ชี้แจงความเห็นของคณะกรรมการบริษัท ถึงความสมเหตุสมผลของราคาซื้อหุ้น GEPT และการปรับราคาซื้อเพิ่มอีก 20% โดยบริษัทได้หุ้นสัดส่วนเท่าเดิมและมูลค่ายุติธรรมของหุ้น GEPT ลดลง รวมทั้งการจ่ายเงินมัดจำ พร้อมสรุปข้อมูลที่ใช้พิจารณาลงทุนโดยสังเขป (เช่น อัตราผลตอบแทน เงื่อนไขยกเลิกการลงทุน) มาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน)
และ ความสมเหตุสมผลและประโยชน์สูงสุดที่บริษัทจะได้รับจากการให้ PEH เป็นผู้เจรจาซื้อหุ้นแทนเจรจากับ META โดยตรง ทั้งที่บริษัทมีความสัมพันธ์เป็นผู้ถือหุ้นของ GEPT 11.5% พร้อมสรุปข้อมูลสำคัญของ PEH และสัญญา (เช่น การประกอบธุรกิจ ชื่อผู้ถือหุ้นและกรรมการ รวมถึงความสัมพันธ์กับบริษัททั้งผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร ณ วันที่เข้าทำสัญญาและปัจจุบัน กรอบเวลาของสัญญา เงื่อนไขสำคัญตามสัญญา)
รวมถึง ความคืบหน้าและการดำเนินการเพื่อให้ได้หุ้น GEPT และรับเงินคืนจาก PEH รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน) กรอบเวลาที่จะได้รับหุ้น GEPT และได้รับเงินคืนครบจำนวน
ทั้งนี้ ขอให้รายงานความคืบหน้าพร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่สำคัญจนกว่าจะได้หุ้น GEPT หรือได้รับเงินคืนจาก PEH ครบถ้วน
2. การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้น WEH ตามที่ไตรมาส 2/67 ขอให้ชี้แจงข้อมูลการทำสัญญาขายหุ้น WEH 1.25 ล้านหุ้น และซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าเป็นการทำสัญญากู้ยืมเงินโดยใช้หุ้น WEH เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผู้ให้กู้ต้องโอนหุ้น WEH คืนเมื่อได้รับชำระเงินครบถ้วนตามสัญญากู้ยืม โดยในปี 67 กลุ่มบริษัทไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด 5.2 ล้านบาท และมียอดที่ต้องชำระภายในปี 68 อีก 86.2 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรม 431 ล้านบาท (33% ของเงินลงทุน) ทำให้เงินลงทุนลดลงจาก 1,290 ล้านบาท เหลือ 859 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตตามข้างต้นและการทำสัญญาขายหุ้น WEH และซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า ตลท.ขอให้ชี้แจงความเห็นของคณะกรรมการบริษัทถึงมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการถูกยึด WEH ซึ่งเป็นหลักประกันเงินกู้ยืม ความคืบหน้าการชำระหนี้ที่ครบกำหนดแล้วและแนวทางดำเนินการเพื่อชำระหนี้ที่จะครบในปี 2568 ได้ตามกำหนด
และ 3. การประกอบธุรกิจในอนาคต ปี 67 บริษัทบันทึกด้อยค่าความนิยมของบริษัท อีโกรนิกส์ จำกัด (ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกัญชงกัญชา : บริษัทย่อย 100%) 1,034 ล้านบาท จากมูลค่าเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ทำให้มีค่าความนิยมเหลือ 101 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของ GEPT และ WEH ตามที่ระบุในข้อ 1 และ 2 รวม 1,229 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตตามข้างต้น
ตลท.ขอให้ชี้แจงความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้
- นโยบายการประกอบธุรกิจกัญชงกัญชาในอนาคต รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนต่างๆ ในอนาคต เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และสภาพคล่องของบริษัท
- ความครบถ้วนเพียงพอของบันทึกค่าความนิยมหรือมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน