บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH เปิดเผยว้า ผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับไตรมาสที่ 3 ประจำปี 52 - 53 (ต.ค.-ธ.ต.52) บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3/52 - 53 เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท (ไตรมาสที่ 2/52 - 53 มีกำไรสุทธิเป็นจำนวนเงิน 238 ล้านบาท) ลดลง 241 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องมาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท หรือ 294 ล้านบาท จากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/51-52 ซึ่งมีขาดทุนสุทธิ 2,266 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 2,263 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องมาจากราคาขายเพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท ขณะที่ต้นทุนขายลดลงตันละ 6,000 บาท ผลทำให้กำไรขั้นต้นสูงขึ้นตันละ 7,000 บาท บริษัทได้ปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง จำนวน 1,063 ล้านบาท เนื่องจากราคาตลาดของสินค้าคงเหลือต่ำกว่ามูลค่าต้นทุนตามบัญชีในไตรมาสนี้ของปี 52
ส่วนยอดขายสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3/52 -53 เป็นจำนวนเงิน 5,661 ล้านบาท จากปริมาณขาย 294,000 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2/52 -53 ซึ่งมียอดขายสุทธิ 5,721 ล้านบาท จากปริมาณขาย 298,000 ตัน ลดลงร้อยละ 1 และร้อยละ 1 ตามลำดับเนื่องจากความต้องการของลูกค้าจากโครงงานของราชการและโครงการของเอกชนลดลง
สำหรับราคาขายเฉลี่ยไตรมาสนี้ อยู่ที่ตันละ 19,300 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนตันละ 100 บาท จากการเพิ่มขึ้นของราคาเหล็กแท่งในตลาดจากไตรมาสก่อน
และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3/51-52 ซึ่งมียอดขายสุทธิ 4,632 ล้านบาท จากปริมาณขาย 253,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 และร้อยละ 16 ตามลำดับ ปริมาณขายสูงกว่าไตรมาสก่อนจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นในไตรมาสนี้ของปี 52 ความต้องการเหล็กในตลาดโลกได้ลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก