รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้เพิกถอนความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนรายนางสาวพรทิพย์ ธงไชยเจริญสิริ อดีตผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนสังกัด บล.สินเอเซีย จำกัด เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.53 เนื่องจากนำหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าไปหาประโยชน์โดยมิชอบ รวมทั้งใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ตนเอง
และสั่งภาคทัณฑ์นางสุรวดี ศรีประเสริฐ และ นายนพคุณ วงศ์รัตนะ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยรายของนางสุรวดี เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.52 เนื่องจากแนะนำลูกค้าที่วงเงินไม่เพียงพอให้ใช้บัญชีของลูกค้ารายอื่นและใช้บัญชีของลูกค้ารายอื่นเพื่อเลี่ยงการเกินวงเงิน ส่วนรายนายนพคุณ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.53 เนื่องจากรับคำสั่งจากบุคคลอื่นที่มิใช่เจ้าของบัญชี
ทั้งนี้ กรณีนางสาวพรทิพย์ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า บล. สินเอเซีย จึงสั่งการให้บริษัทตรวจสอบ และพบข้อเท็จจริงว่านางสาวพรทิพย์ได้ซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าโดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่ง และได้นำหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าไปขายเพื่อให้มีวงเงินเพียงพอที่จะสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อตนเอง รวมทั้งได้ขอรับใบยืนยันการซื้อขายหลักทรัพย์จากฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์มาลงลายมือชื่อแทนลูกค้าเพื่อปกปิดการกระทำผิดดังกล่าว ซึ่งเข้าข่ายปฏิบัติงานด้วยความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานตามข้อ 14(1) และ (2) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
การกระทำข้างต้นเป็นความผิดร้ายแรง จึงสั่งเพิกถอนความเห็นชอบการเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของนางสาวพรทิพย์ เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นต้นไป
ส่วนกรณีนางสุรวดี ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งตามปกติ และสุ่มฟังเทปบันทึกการสนทนาระหว่างผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนกับลูกค้า พบว่านางสุรวดีแนะนำให้ลูกค้าที่วงเงินไม่เพียงพอไปใช้บัญชีของลูกค้ารายอื่น และให้ลูกค้าที่ยังไม่ได้เปิดบัญชีไปซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้ารายอื่นก่อน แล้วจึงโอนหลักทรัพย์ที่ซื้อเข้าบัญชีที่เปิดใหม่ รวมทั้งได้ส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าที่วงเงินไม่เพียงพอในบัญชีลูกค้ารายอื่นที่มีวงเงิน และพยายามสร้างหลักฐานให้เข้าใจว่าลูกค้าเจ้าของบัญชีเป็นผู้ส่งคำสั่งเอง
ก.ล.ต. พิจารณาว่าการใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชี และการสนับสนุนผู้ลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เหมาะสมกับฐานะทางการเงิน เป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงานตามข้อ 14(2) แห่งประกาศ ที่ สข. 49/2552 ก.ล.ต. จึงสั่งภาคทัณฑ์ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน
และกรณีนายนพคุณ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนของลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และ ก.ล.ต. ได้นำผลการตรวจสอบของบริษัทมาพิจารณา ปรากฏข้อเท็จจริง ซึ่งนายนพคุณยอมรับว่าได้รับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากเพื่อนของลูกค้าเจ้าของบัญชี ซึ่งมิใช่ผู้รับมอบอำนาจ ก.ล.ต.พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน