PTT เผยปี52 กำไรสุทธิโต 15.2% เหตุรับส่วนแบ่งกำไรบ.ย่อยมาก แม้ยอดขายตก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 19, 2010 18:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท (PTT) เปิดเผยว่า ในปี 52 บริษัทมีกำไรสุทธิ 59,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 51,705 ล้านบาท และ กำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 21.06 บาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น ที่ 18.33 บาท

แม้ว่าในปี 52 รายได้จากการขายและการให้บริการ ลดลง 20.7% มาที่ 1,586,174 ล้านบาท และ EBITDA ลดลง 8.7% อยู่ที่ 142,704 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลงตามราคาในตลาดโลก

แต่เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 18,767 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 51 ที่ขาดทุน 6,251 ล้านบาทส่วนใหญ่เป็นผลมาจากบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจการกลั่นที่มีผลประกอบการดีขึ้นจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากผลกระทบ จากสต็อกน้ำมัน รวมทั้งปี 51 มีผลขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังของปีราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์มีผลประกอบการลดลงจากส่วนต่างราคาฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน อันเนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ

รวมทั้ง ในปี 52 บริษัทกลับมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 4,683 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,982 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/52 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 451,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตมาส 4/51 จำนวน 127,978 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.6% โดยมีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นและรายได้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (EBITDA)40,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/51 จำนวน 18,613 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83.9% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 3,038 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/51 ที่มีส่วนแบ่งขาดทุนฯ จำนวน 23,888 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจการกลั่นที่มีผลการเนินงานที่ดีขึ้น จากค่าการกลั่น (GRM) ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain/Loss)

เนื่องจากงวดไตรมาส 4/51 มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูง จากการที่ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และสายอะโรเมติกส์มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (Product-to-feed (P2F) margin) ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/51

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/52 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1,536 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 4/51 มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 3,234 ล้านบาท ส่งผลให้ ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 15,217 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 4/51 มีขาดทุนสุทธิจำนวน 22,189 ล้านบาท


แท็ก (PTT)   ปตท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ