นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (S&P) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/53 เมื่อวันที่ 24 ก.พ.53 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 350 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 10%ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 10,468,627 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.-10 ก.ย.53
หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนวันที่บริษัท จะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วย ราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่าราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทำการซื้อคืนนั้น บวกด้วยจำนวน 15% ของราคาปิดดังกล่าว ทั้งนี้ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-24 ก.พ.53 เท่ากับ 32.72 บาทต่อหุ้น (ราคาปิดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 30 วันปฏิทินย้อนหลัง)
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืนเพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มสภาพคล่องในการ ซื้อขายหุ้นของบริษัท เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพื่อเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
ผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนจะไม่มีสิทธิในการรับเงินปันผล และจะทำให้สิทธิในการออกเสียงต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนจะไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนบริษัทจะมีสินทรัพย์สภาพคล่องและมูลค่าทางบัญชีในส่วนผู้ถือหุ้นลดลง และหากบริษัทดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้ครบตามวงเงินที่ระบุไว้ทั้งหมดจำนวน 350 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนจะทำให้บริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่อง และมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงในจำนวนเดียวกัน
การจำหน่ายและการตัดหุ้นที่ซื้อคืน จะพิจารณาโดยคณะกรรมการบริษัทภายหลังตามความเหมาะสมในขณะนั้น กำหนดระยะเวลาจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.54-10 ก.ย.56 (ภายหลัง 6 เดือน นับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี)