นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่า ยเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 52 เพิ่มอีกหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 19.2 ล้านบาท กำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 16 เม.ย.53 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อโดยประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 19 เม.ย.53 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เม.ย.53
ทั้งนี้กำหนดให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/53 ในวันที่ 1 เม.ย.53
นอกจากนี้ได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ชื่อบริษัท แฮลเทค จำกัด (Haltek) ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือตัดรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะต่างๆ สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ คาดว่าจัดตั้งได้ภายในเดือน มี.ค.53 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
สำหรับบริษัทร่วมทุนได้ดังกล่าว เป็นการร่วมทุนระหว่าง HTECH คิดเป็น 70% ของสัดส่วนการลงทุน และ Atek Precision Tooling Pte Ltd. ประเทศสิงคโปร์ ลงทุน 3 แสนหุ้น คิดเป็น 30% และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับ HTECH
เงื่อนไขที่สำคัญในการร่วมทุน Haltek จะจ่ายชำระค่าความนิยมและค่าแฟรนไชส์ให้ Atek และ Atek จะโอนลูกค้าในประเทศไทยทั้งหมด ให้กับ Haltek , Atek จะไม่จำหน่ายสินค้าโดยตรง ในตลาดประเทศไทย, HTECH สามารถซื้อหุ้น Haltek คืนจาก Atek ได้หลังจาก 3 ปี
สำหรับวัตถุประสงค์การการลงทุนครั้งนี้ เพื่อขยายตลาดเครื่องมือตัด (Cutting Tools) ไปยังลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประโยชน์ที่ได้จากการลงทุน Atek จะให้การสนับสนุนในด้านเทคนิค และการสำรองสินค้า ,HTECH สามารถขยายฐานลูกค้าเครื่องมือตัดไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น สามารถใช้กำลังการผลิตได้มากขึ้น และจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลในบริษัทร่วมทุน เป็นเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน
นายพีท กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปี 53 คาดว่า น่าจะเป็นปีที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากลูกค้าทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์มีการขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ดังนั้นจึงเชื่อว่าน่าจะผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท โดยประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมฯ ปีนี้คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ประมาณ10-15% จากปี 52
สำหรับผลประกอบการงวดปี 52 ที่บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 65.03 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 51 แต่ถือว่าเกินเป้าหมาย คือเกินระดับ 80% ของปี 51 เป็นผลมาจากในช่วงครึ่งปีแรกประสบปัญหาเศรษฐกิจโลกทรุดตัวอย่างรุนแรง ทำให้รายได้ในช่วงนั้นลดลง แต่ในครึ่งปีหลัง บริษัทได้เร่งการผลิตอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน