นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 53 ไว้ที่ 25,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 35-40% จากปี 52 โดยจะเป็นการสร้างรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้สูงขึ้น ทั้งจากธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจใหม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ เช่น บริการสาธารณูปโภค พลังงานและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ศึกษาข้อมูลและวางแผนการลงทุนในระดับหนึ่ง คาดว่าไม่เกินกลางปีนี้ จะได้เห็นความชัดเจนอย่างแน่นอน
"ถ้าไม่มีผลกระทบรุนแรงทางการเมือง ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะสดใสขึ้น" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจ ICT ในปีนี้ บริษัทหวังขยายผลและต่อยอดรายได้ประจำจากโครงการปัจจุบัน และมองหาโอกาสในการพิชิตโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นและให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการและ การส่งมอบงานให้สำเร็จลุล่วง โดยตั้งเป้ารายได้ 10,300 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นอีก 70 % มาจากโครงการต่างๆ ที่เซ็นสัญญาไปแล้วในปี 52 บวกกับงานประมูลโครงการอื่นๆอีกกว่า 10,000 ล้านบาทในปีนี้
สายธุรกิจ Mobile Multimedia นำโดย บมจ. สามารถไอ-โมบาย (SIM) ในปี 53 ตั้งเป้ารายได้ที่ 12,000 ล้านบาท คาดว่าจะจำหน่ายเครื่องได้ถึง 4.5 ล้านเครื่อง เป็นยอดขายในประเทศ 3.3 ล้านเครื่อง ต่างประเทศ 1.2 ล้านเครื่อง เน้นโทรศัพท์ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งมือถือ 3G แอนดรอยด์ สมาร์ทโฟน รวมทั้งฟังก์ชั่นที่ตรงตามความต้องการของตลาด เช่น สองซิม ดูทีวีฟรี ปุ่มกด QWERTYและแชทผ่านคอมมูนิตี้ ออนไลน์ ส่วนตลาดต่างประเทศยังคงเน้นการลงทุนที่ตลาดอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ด้านธุรกิจคอนเทนต์ จะยังคงรักษาความเป็นที่หนึ่งด้านตลาด Voice และ non voice โดยจะมีการบริการ และแทรกคอนเทนต์ใหม่ๆในโทรศัพท์ i-mobile ทั้ง 2G และ 3G เพิ่มมากขึ้น
สายธุรกิจ Technology Related ปี 53 ตั้งเป้ารายได้ที่ 2,700 ล้านบาท จากการต่อยอดในธุรกิจ Call Center และระบบกล้องวงจรปิด รวมทั้งการสร้างธุรกิจใหม่ให้แก่ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด
นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ในปี 52 เป็นปีแห่งการฝ่าวิกฤตและพิชิตโอกาส ซึ่งทุกสายธุรกิจภายใต้กลุ่มสามารถใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงโดยเน้นการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้กลุ่มสามารถฯ มีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น 17,305 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 51 ประมาณ 7 % คิดเป็นกำไรสุทธิ 455 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 70%
ทั้งนี้ หากไม่นับกำไรพิเศษจากการขายที่ดินของบริษัทย่อยในต่างประเทศ บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 120% สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากสายธุรกิจ ICT Solutions ที่ประสบความสำเร็จจากการส่งมอบงานโครงการใหญ่